เมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเป็นทางการ เนื่องในโอกาสครบรอบ ๔๐ ปีของความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

     ในการเยือนครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือกับเชคอับดุลลาห์ บิน ซายิด อัล นะห์ยาน (His Royal Highness Sheikh Abdullah bin Zayed Al Nahyan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเชคอัลดุลลาห์ฯ ได้แจ้งว่าเชคคาลิฟา บิน ซาเยด อัล นะห์ยาน (His Royal Highness Sheikh Khalifa bin Zayed Al Nahyan) ได้ฝากคำถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุยืนยาวและทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์ ตลอดจนหารือแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

     ในด้านการเมืองความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อความร่วมมือในภาพรวมที่ยังมีความเข้มแข็ง โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องให้มีการจัดการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และวิชาการ (Joint Commission Meeting on Economic, Trade, and Technical Cooperation : JCM)เป็นครั้งแรกที่ไทยในปีนี้ และเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือในการยกเว้น การตรวจลงตราหนังสือเดินทางทูตและราชการให้มีความคืบหน้าในโอกาสแรก รวมถึงประสานความร่วมมือ ในเวทีระหว่างประเทศในกรอบความร่วมมือต่าง ๆ อาทิ อาเซียนกับ Gulf Cooperation Council (GCC)

     ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นับเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในตะวันออกกลางและแหล่งน้ำมันดิบอันดับหนึ่งของไทย โดยมีการแลกเปลี่ยนระหว่างภาคธุรกิจเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะส่งคณะนักธุรกิจเข้าร่วมงาน ThaiFEX 2015 ที่ประเทศไทย ในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘ ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญ ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านธุรกิจอาหาร รวมถึงอาหารฮาลาลระหว่างกัน

     ในด้านสังคม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความขอบคุณที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ให้การดูแลสวัสดิภาพของชาวไทยกว่า ๑๒,๐๐๐ คน ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นอย่างดี และยินดีต่อปริมาณนักท่องเที่ยวระหว่างกันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองประเทศเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกันและกันในภูมิภาค โดยภาคเอกชนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประสงค์ที่จะลงทุนด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพิ่มมากขึ้น  นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านวิชาการ โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยอย่างต่อเนื่อง โดยไทยพร้อมแบ่งปันประสบการณ์ในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญ อาทิ การจัดการการท่องเที่ยว  สาธารณสุข และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

     นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ร่วมลงนามความตกลง ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับ รัฐบาลแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านอาชญากรรมระหว่างกัน และ(๒) ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนชาวต่างชาติในไทย

     นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อปี ๒๕๑๘ ไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความสัมพันธ์อันดีและมีความร่วมมือที่ใกล้ชิด โดยในโอกาสครบรอบ ๔๐ ปี ของความสัมพันธ์ฯ ในปีนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างกัน อาทิ การจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์