การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย - กัมพูชา ครั้งที่ ๙

การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย - กัมพูชา ครั้งที่ ๙

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ม.ค. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 23 พ.ย. 2565

| 3,345 view

เมื่อวันที่ ๑๕ - ๑๖ มกราคม ๒๕๕๘ พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเยือนจังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ ๙ ตามคำเชิญของนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา

ที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมแสดงความพอใจกับพัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในภาพรวม สองประเทศมีความเข้าใจและความปรารถนาดีต่อกัน และยังแสดงความมุ่งมั่นที่จะยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกสาขาสำคัญระหว่างกันด้วย

ในด้านการเมืองและความมั่นคง สองฝ่ายยินดีที่หน่วยงานด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนมีความร่วมมือที่ใกล้ชิด อย่างไรก็ดี สองฝ่ายเล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ตามแนวชายแดน และเห็นควรให้ใช้คณะกรรมการระดับประเทศที่ได้ตั้งขึ้นเป็นกลไกในการหารือเกี่ยวกับแนวทาง รูปแบบ และขั้นตอนการประสานงาน ซึ่งรวมถึงแผนปฏิบัติการในด้านการป้องกัน ยับยั้ง และการดำเนินการตามกฎหมายและการลงโทษกลุ่มผู้กระทำผิด รวมทั้งการลาดตระเวนโดยมีการประสานงานและการประสานงานที่เข้มข้นในการสอบสวน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศที่เกิดเหตุที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือการสูญเสียชีวิต ทั้งนี้ กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการระดับประเทศสองฝ่ายในโอกาสแรก

ในด้านเศรษฐกิจ สองฝ่ายยินดีที่การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนให้มากขึ้น ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มการเจรจาอนุสัญญาเพื่อการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อนในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนั้น ฝ่ายไทยได้เชิญธุรกิจของกัมพูชา ทั้งภาครัฐและเอกชนให้พิจารณาใช้ตลาดทุนของไทยเป็นแหล่งระดมทุน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันพัฒนาพื้นที่ชายแดนให้เป็นชายแดนแห่งสันติภาพ และความมั่งคั่ง โดยหนึ่งในนโยบายทางยุทธศาสตร์ที่ได้หารือกันคือการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษใน บริเวณพื้นที่ชายแดนในจังหวัดบันเตียเมียนเจย - สระแก้ว และจังหวัดเกาะกง - ตราด สองฝ่ายได้หารือถึงมิติความร่วมมือและแผนปฏิบัติการอย่างครอบคลุม และยังได้เห็นพ้องให้เร่งรัดกระบวนการภายในในการยกระดับจุดผ่านแดน ๔ จุดให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร และเห็นควรให้ใช้ประโยชน์จากเวทีการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านการพัฒนา พื้นที่ชายแดนและการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม (JCBD) ให้มากที่สุดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว

สองฝ่ายเห็นพ้องให้ ผลักดันคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (JTC) สานต่อการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย - กัมพูชาในอ่าวไทย ตามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราช อาณาจักรกัมพูชาในปี ๒๕๕๔ และกฎหมายระหว่างประเทศ

นอกจากนั้น ฝ่ายไทยยังแสดงความพร้อมในการสานต่อโครงการด้านสังคมและวัฒนธรรมในกัมพูชา ทั้งในด้านสาธารณสุข การศึกษา และการพัฒนาทักษะอาชีพแก่แรงงาน ซึ่งมีเป้าหมายในการเพิ่มความเข้มแข็งให้ชุมชนในพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตามแนวชายแดนอย่างยั่งยืน ลดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และเกื้อหนุนความสัมพันธ์ทวิภาคีในระยะยาว

ในระดับภูมิภาค สองฝ่ายได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมในภูมิภาค โดยเฉพาะการก่อสร้างเส้นทางต่าง ๆ ในภูมิภาค และทางรถไฟระหว่างอรัญประเทศ - ปอยเปต  นอกจากนั้น สองฝ่ายยังได้แจ้งความคืบหน้าของพัฒนาการของการเปิดจุดผ่านแดนและการก่อ สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบทให้อีกฝ่ายได้ทราบ และเห็นพ้องให้เร่งรัดการเปิดจุดผ่านแดนดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี ๒๕๕๘ และแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๑

สองฝ่ายหวังว่าพัฒนาการของโครงข่ายการคมนาคมในลักษณะดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนในปีนี้

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้จัดกิจกรรมเพื่อฉลองการครบรอบ ๖๕ ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับกัมพูชาในปี ๒๕๕๘ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงแผนกิจกรรมต่อไป

การหารือเป็นไปในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร สองฝ่ายได้ใช้โอกาสนี้หารือแนวทางในการสานต่อความร่วมมือที่ดำเนินมาให้เพิ่มพูนขึ้นในทุกสาขา เพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมและเพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนสองประเทศ และของภูมิภาค

*   *   *   *   *

๑๗ มกราคม ๒๕๕๘

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ