เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๘ เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย รวม ๔ ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ และแคนาดาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 ๑. นายคีริลล์ บาร์สกี เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย แสดงความยินดีและชื่นชมต่อผลสำเร็จในการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายเดนิส วี แมนทูรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าสหพันธรัฐรัสเซียเมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๘ นอกจากนี้ได้หารือกิจกรรมสำคัญที่จะจัดขึ้นในปีนี้ อาทิ การเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับรัสเซีย ครั้งที่ ๖ ซึ่งรัสเซียจะเป็นเจ้าภาพ และการประชุมหารือระดับรัฐมนตรีช่วยในกรอบแผนการหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ 

ในโอกาสครบรอบ ๑๒๐ ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซียในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ทั้งสองฝ่ายเห็นควรให้มีการจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อฉลองวาระดังกล่าวทั้งในไทยและรัสเซีย โดยเน้นกิจกรรมส่งเสริมการเชื่อมโยงระดับประชาชน เช่นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การศึกษา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะทยอยจัดตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ 

๒. นายพอล โรบิลลียาร์ด เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ในโอกาสนี้ นายโรบิลลียาร์ดได้กล่าวถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็วและมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง รวมทั้งแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกัน

ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูงและแนวทางการส่งเสริม ความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลียซึ่งดำเนินไปด้วยดีในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษาภายใต้โครงการ New Colombo Plan และการต่อต้านการค้ามนุษย์ภายใต้โครงการออสเตรเลีย-เอเชีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (AAPTIP)  โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดเหตุจูงใจและโอกาสในการค้ามนุษย์ทั้ง ในระดับประเทศและในระดับภูมิภาค ของอาเซียน รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบกระบวนการยุติธรรม

ในด้านเศรษฐกิจ ออสเตรเลียตระหนักถึงความสำคัญของไทยในการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และการที่ไทยเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ ๘ ของออสเตรเลีย ในโอกาสครบรอบ ๑๐ ปี ความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (Thailand-Australia Free Trade Agreement-TAFTA) ในปีนี้ ทั้งสองฝ่ายประสงค์ที่จะขยายมูลค่าและหาลู่ทางส่งเสริมการค้าและการลงทุนให้สูงขึ้น รวมทั้งจะมีการนำนักธุรกิจออสเตรเลียเดินทางมาประเทศไทยเพื่อศึกษาโอกาสและลู่ทางการขยายลู่ทางการค้าการลงทุน

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงถึงพัฒนาการทางการเมืองของไทยว่าได้ดำเนินการไปตาม Roadmap ที่วางไว้ โดยนายโรบิลลียาร์ดแสดงความขอบคุณที่ไทยได้อธิบายให้เข้าใจถึงพัฒนาการทางการเมืองของไทย โดยออสเตรเลียพร้อมจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยจะกลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยตามกำหนดเวลาที่ กำหนดไว้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้กล่าวเชิญนาง จูลี่ บิชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย เยือนประเทศไทยและเป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-ออสเตรเลีย ครั้งที่ ๒ (2nd Thailand-Australia Joint Commission-JC) ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

๓. นางคริสทีเนอ ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ เอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ได้หารือประเด็นความร่วมมือระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์ โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของสวิสในการเป็นประธานองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe- OSCE) เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งไทยจะมุ่งร่วมมือกับสวิตเซอร์แลนด์ฐานะประธาน Asian Partners for Co-operation Contact Group ของ OSCE และกลุ่ม Troika ของ OSCE ประจำปี ๒๕๕๘ รวมทั้งยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะประธานและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในระหว่างการเข้าร่วมประชุม OSCE

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการตาม Roadmap  และขอบคุณรัฐบาลสวิสที่ได้แสดงความสนใจเกี่ยวกับกระบวนการปรองดอง และการปฏิรูปการเมืองในไทยมาโดยตลอด รวมทั้งได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมงานเสวนาทางวิชาการหัวข้อ “On the Path to Reform” ในวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ ที่กรุงเทพฯ

นางบูร์เกเนอร์ กล่าวชื่นชมกระบวนการปฏิรูปของไทยที่รับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน และยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์การจัดการเลือกตั้ง สวิตเซอร์แลนด์พร้อมที่จะส่งผู้ที่มีองค์ความรู้เรื่องการปราบปรามการทุจริต การต่อต้านการค้ามนุษย์และการดำเนินนโยบายแรงงานอพยพเพื่อมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ได้ผลสัมฤทธิ์

๔. นายฟิลิป คาลเวิร์ต เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย รับทราบถึงสถานการณ์และพัฒนาการการเมืองไทย โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงการดำเนินการตาม Roadmap และแนวทางการปฏิรูปประเทศเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง นายคาลเวิร์ตเห็นว่าไทยมีความคืบหน้าและมุ่งมั่นที่จะดำเนินการปฏิรูปตามแนวทาง Roadmap และหวังที่จะเห็นว่าไทยจะกลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ในที่สุด ทั้งนี้ แคนาดาพร้อมที่จะผู้เชี่ยวชาญเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่ไทยเห็นเหมาะสม

ทั้งสองฝ่ายเห็นความสำคัญของการขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยนายคาลเวิร์ตแสดงความยินดีที่ผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเดินทางไปแคนาดาในช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อศึกษาโอกาสและลู่ทางการขยายลู่ทางการค้าการลงในแคนาดา นอกจากนี้ ได้ชักชวนให้นักศึกษาไทยเดินทางไปศึกษาต่อในการศึกษาระดับปริญญาในประเทศแคนาดา

นายคาลเวิร์ตกล่าวชื่นชมไทยที่แสดงบทบาทนำในการสร้างประชาคมอาเซียนและบทบาทการเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน – จีน ที่สร้างสรรค์อีกด้วย