นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน Forbes Asia’s Best under a Billion Award Ceremony and Dinner 2014

นายกรัฐมนตรีกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน Forbes Asia’s Best under a Billion Award Ceremony and Dinner 2014

วันที่นำเข้าข้อมูล 9 ธ.ค. 2557

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 3,977 view

เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๙ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน Forbes Asia’s Best under a Billion Award Ceremony and Dinner 2014 (BuB 2014) ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ(ในฐานะ Host Sponsor) และบริษัท Forbes Media LLC ร่วมกันจัดขึ้น ณ โรงแรม Plaza Athenee กรุงเทพฯ โดยมี ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยเข้าร่วมงาน

ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีกับบริษัทในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้รับคัดเลือกจาก Forbes ให้รับรางวัล “Best under a Billion” พร้อมทั้งกล่าวว่าขณะนี้ ประเทศไทยก้าวสู่ระยะที่สองตามโรแมปด้วยการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว การจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี การจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติและคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อออกแบบและวางรากฐานอันมั่นคงและยั่งยืนทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม นโยบายหลักที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะมาตรการต่าง ๆ ที่จะสร้างรากฐานที่มั่นคง เพื่อให้เศรษฐกิจของไทยเข้มแข็งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่าประเทศไทยมีบทบาทสำคัญและเป็นแกนนำของประชาคมอาเซียน และยังเป็นผู้ขับเคลื่อนการพลวัตรทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกรวม ๑๖ ประเทศ รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการปรับปรุงและสร้างเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มพูนศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยและการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันซึ่งเป็นปัญหาที่บิดเบือนกลไกตลาดและกระทบต่อประสิทธิภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย รัฐบาลกำลังปรับปรุงข้อกำหนดและกฎระเบียบมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มีความโปร่งใสและเอื้ออำนวยต่อการลงทุนและการทำธุรกิจของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปโดยสะดวกและราบรื่น โดยจำเป็นต้องปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของคณะทูตานุทูต หอการค้าต่างประเทศ และนักลงทุนต่างชาติ เพื่อให้ไทยยังคงเป็นประเทศที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจและการลงทุนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

รัฐบาลให้ความสำคัญกับเสริมสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางด้านกายภาพและกฎระเบียบ การเชื่อมต่อระบบศุลกากรอีเล็คทรอนิกส์ ณ จุดเดียว การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศไทย ระหว่างปี ค.ศ. ๒๐๑๕ – ๒๐๒๒ จัดทำยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ในระยะ ๗ ปี (ค.ศ. ๒๐๑๕-๒๐๒๑) มาตรการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (International Headquarters: IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Centers: ITC) ในประเทศไทย โดยการลดและยกเว้นภาษี ทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ ไทยยังเน้นการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)  ให้เข้มแข็งและมีความพร้อมที่จะปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของเศรษฐกิจโลกและการปฏิรูปด้านพลังงานด้วย โดยขณะนี้ รัฐบาลกำลังขับเคลื่อน ๒ แผนงานหลักในการปฏิรูปพลังงาน คือ แผนการพัฒนาพลังงานทดแทน และแผนแม่บทว่าด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ไทยได้น้อมนำปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” มาใช้เพื่อให้เศรษฐกิจมีความมั่นคงและพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ไทยยังคงเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงด้วยการปฏิรูปโดยรอบด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม และในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักธุรกิจต่างชาติเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาประเทศไทย

BuB 2014 เป็นงานที่ Forbes Media LLC จัดขึ้นตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ เพื่อมอบรางวัลให้แก่บริษัทมหาชนจำกัดในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก มีรายได้ระหว่าง ๕ – ๑,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และได้รับคัดเลือกจากนิตยสาร Forbes Asia ว่ามีผลประกอบการดีเด่น มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง โดยรางวัลนี้นับเป็นสิ่งยืนยันถึงความสำคัญที่บริษัทเหล่านี้ที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของภูมิภาคและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ต่อไป

ในปีนี้ มีบริษัทของไทยได้รับการคัดเลือกเพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ ซึ่งสะท้อนถึงนโยบายของรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยบริษัทของไทย ๙ รายที่ได้รับคัดเลือกจาก Forbes ให้รับรางวัล BuB 2014 ได้แก่

๑. บริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) (ฉนวนกันความร้อนและอุปกรณ์ไฟฟ้า)
๒. โรงพยาบาลจุฬารัตน์
๓. บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (อุปกรณ์ก่อสร้าง)
๔. บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
๕. บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) (รับเหมาก่อสร้างและวิศวกรรมโยธา)
๖. บริษัท ทักษิณคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (ผู้ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตอัดแรงและรับเหมาก่อสร้าง)
๗. บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) (ผู้ผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็ก)
๘. บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (ผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกที่)
๙. ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลวิภาวดี

ทั้งนี้ การจัดงาน BuB 2014 นับเป็นโอกาสดีที่ภาคธุรกิจเอกชนและนักลงทุนจากต่างประเทศจะได้เห็นความคืบหน้าของการปฏิรูปประเทศไทยในด้านต่าง ๆ ด้วยตนเอง และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับ Forbes Media LLC. ซึ่งเป็นสื่อด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการเงิน ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับโลก
                                     

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ