เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. นายตีแยรี วีโต (Thierry Viteau) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยได้เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 

นายวีโต ได้แสดงความยินดีต่อการเข้ารับตำแหน่งของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และแสดงความพร้อมที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์กับไทย โดยนายวีโต ได้กล่าวว่า  ไทยเป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสมากว่า ๓๐๐ ปี และเป็นคู่ค้าที่สำคัญเป็นลำดับ ๒ ของฝรั่งเศส ในกลุ่มประเทศอาเซียน ปัจจุบันมีบริษัทฝรั่งเศสเข้ามาดำเนินกิจการในไทยกว่า ๓๕๐ แห่ง ดังนั้น ฝรั่งเศสจึงประสงค์จะกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับไทยและประเทศในอาเซียน โดยนายฟิลิป วาแรง ผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสด้านเศรษฐสัมพันธ์กับอาเซียนจะเดินทางเยือนไทยระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เพื่อเป็นประธานเปิดการประชุม ASEAN Forum for French Foreign Trade Advisor ทั้งนี้ ในระหว่างการเยือน นายวาแรงประสงค์จะเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยฝรั่งเศสสนใจที่จะกระชับความร่วมมือด้านการวิจัยและเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาด้านการเกษตร อาหาร และสาธารณสุข กับหน่วยงานวิจัยของไทย

ในด้านการศึกษา ฝรั่งเศสประสงค์จะเผยแพร่การใช้ภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทย และแสดงความพร้อมที่จะสานต่อโครงการฝึกอบรมภาษาฝรั่งเศสแก่เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจของไทยก่อนเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ นอกจากนั้น ความรู้ภาษาฝรั่งเศสจะเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจของไทยในภูมิภาคแอฟริกาซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง และมีประชากรที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสจำนวนมาก รวมทั้งจะเปิดโอกาสการดำเนินความร่วมมือในการนำองค์ความรู้ที่เหมาะสมของไทยไปถ่ายทอดเพื่อพัฒนาประเทศในภูมิภาคแอฟริกาด้วย

นอกจากนี้ ฝรั่งเศสประสงค์จะส่งเสริมการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างประชาชนต่อประชาชน  ผ่านการท่องเที่ยว โดยขณะนี้ ฝรั่งเศสมีการตรวจลงตราระยะยาวเพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปฝรั่งเศสได้ง่ายขึ้น 

อนึ่ง ฝรั่งเศสจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP21) ที่กรุงปารีส ในปี ๒๕๕๘  ซึ่งเป็นการประชุมระดับผู้นำรัฐและหัวหน้ารัฐบาล ฝรั่งเศสจึงให้ความสำคัญต่อการประชุมดังกล่าวอย่างมาก และขอเชิญไทยให้เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวสนับสนุนในหลักการและพร้อมให้การสนับสนุน