เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.๐๐ น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย โดยมีนายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุล นายมานพชัย วงศ์ภักดี อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกาและ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ เข้าร่วม สรุปรายละเอียดได้ดังนี้

นายสีหศักดิ์กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี ไปช่วยเตรียมการในการจัดตั้งสำนักงานช่วยเหลือในการอพยพคนไทยออกจากลิเบียที่เมือง Djerba ของตูนีเซีย เพื่อให้การอพยพเป็นไปอย่างเรียบร้อยและราบรื่นมิใช่เป็นการปิดสถานเอกอัครราชทูต โดยสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงตริโปลีจะมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นประจำอยู่เพื่อช่วยประสานงานเรื่องการอพยพและจะประสานกับสำนักงานที่เมือง Djerba อย่างใกล้ชิด

อนึ่ง ในค่ำวันนี้ (๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗) เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานรวม ๗ คน จะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปยังกรุงตูนิส ประเทศตูนีเซีย โดยจะเดินทางถึงกรุงตูนิส ในวันที่ ๑ สิงหาคม เวลา ๑๘.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งจะเดินทางไปจัดตั้งสำนักงานชั่วคราวในการช่วยเหลือ คนไทยที่เมือง Djerba และอีกส่วนหนึ่งจะไปประจำที่กรุงตูนิสเพื่อช่วยในการติดต่อประสานงานกับรัฐบาลตูนีเซียและการอพยพคนไทยจำนวนมากกลับไทยเนื่องจากกรุงตูนิสมีความเหมาะสมในการจัดหาเครื่องบินพาณิชย์ให้คนไทยเดินทางกลับได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ฯ ได้นำอุปกรณ์การจัดทำหนังสือเดินทางชั่วคราวให้ฟรีในกรณีแรงงานไทยหนังสือเดินทางสูญหายด้วย

สำหรับความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี แจ้งว่าเอกอัครราชทูต และเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมด้วยนักเรียนไทยจำนวน ๘ คน ได้เดินทางออกจากกรุงตริโปลีแล้วในวันนี้ และจะเดินทางถึงชายแดนลิเบีย – ตูนีเซีย ในเย็นวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนที่เหลืออีก ๓ คน ขอเวลาในการเตรียมตัว ส่วนการอพยพคนไทยกลุ่มแรกนั้นจะเดินทางด้วยรถยนต์ผ่านชายแดนเข้าประเทศตูนีเซียและจะเดินทางไปที่   กรุงตูนิส ก่อนที่จะทยอยเดินทางกลับประเทศไทยโดยใช้สายการบินพาณิชย์ ส่วนคนไทยที่อยู่บริเวณเบงกาซี อาจเดินออกทางเรือหรือออกจากสนามบินที่ใกล้เคียงโดยจะพิจารณาช่องทางการอพยพที่เหมาะสมกับสถานการณ์และคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไทยเป็นสำคัญ นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับกรมการจัดหางาน ซึ่งจะช่วยติดตามเรื่องสิทธิประโยชน์ของแรงงานที่เดินทางกลับอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ได้กล่าวถึงการประสานกับอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานในการกำชับให้บริษัทนายจ้างของแรงงานไทยในลิเบียร่วมดำเนินการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยไปยังจุดนัดพบในลิเบียเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางกลํบประเทศไทยด้วย

ด้านอธิบดีกรมการกงสุล กล่าวเพิ่มเติมถึงการอพยพคนไทยว่าได้ประสานขอความร่วมมือจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ในการเพิ่มที่นั่งอีกเที่ยวบินละ ๗๐ ที่นั่ง ในเส้นทางดูไบ – กรุงเทพฯ สำหรับคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทย

อนึ่งในวันนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีและฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีแรงงานทำงานในลิเบียจำนวนมาก เพื่อประสานงานและสอบถามความเป็นไปได้ในการร่วมมือเรื่องการอพยพคนไทย

หมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อเพื่อให้ญาติของแรงงานไทยสามารถใช้ติดต่อสอบถามข้อมูล ความคืบหน้า แจ้งความห่วงใยต่างๆ เพื่อศูนย์ฯ จะได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงตริโปลีและสำนักงานช่วยเหลือ คนไทยในตูนีเซีย ดังนี้

โทรศัพท์ ๐๒ ๖๔๓ ๕๒๕๙ และ ๐๒ ๖๔๔ ๗๒๔๕  หมายเลขโทรสาร ๐๒ ๖๔๓ ๕๕๒๒