ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรป ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน – สหภาพยุโรป ครั้งที่ ๒๐

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรป ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน – สหภาพยุโรป ครั้งที่ ๒๐

วันที่นำเข้าข้อมูล 23 ก.ค. 2557

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 23 พ.ย. 2565

| 2,098 view

เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าพบหารือกับนาย David O’Sullivan ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรป (Chief Operating Officer, European External Action Service: EEAS) ระหว่างการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน – สหภาพยุโรป (ASEAN – EU Ministerial Meeting: AEMM) ครั้งที่ ๒๐ ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้


ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงสถานการณ์และพัฒนาการทางการเมืองของไทยเพื่อให้ฝ่ายสหภาพยุโรปได้เข้าใจถึงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขั้นตอนและความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการ Roadmap ของไทย รวมทั้งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของประเทศไทยต่อภูมิภาคอาเซียนและต่อสหภาพยุโรป ซึ่งแม้ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเข้ามาบริหารประเทศ ไทยจะยังคงเป็นมิตรประเทศที่สำคัญต่อสหภาพยุโรป ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายยังจะดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ  ซึ่งไทยยังมีความสำคัญเนื่องจากมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียนและสหภาพยุโรปก็ยังมีผลประโยชน์อยู่มาก และแสดงความเชื่อมั่นว่า ภาคเอกชนของประเทศยุโรปจะยังให้ความสนใจการค้าการลงทุนกับไทย


ฝ่ายสหภาพยุโรปก็แสดงความเข้าใจในสถานการณ์และพัฒนาการทางการเมืองของไทยและเห็นความสำคัญของไทยในฐานะมิตรประเทศที่สำคัญ และจะติดตามผลการดำเนินการตาม Road Map ต่อไป


ปลัดกระทรวงการต่างประเทศยืนยันกับฝ่ายสหภาพยุโรปว่า ไทยยังยึดมั่นในค่านิยมและแนวทางประชาธิปไตยเช่นเดียวกับที่ฝ่ายสหภาพยุโรปยึดมั่น อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางการเมืองในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันและมีแนวทางของแต่ละประเทศ การเข้ามาบริหารประเทศของ คสช. เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ไม่ใช่เป็นการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นการประคับประคองประชาธิปไตย ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่า สิ่งที่ประเทศไทยต้องการคือการที่นานาประเทศมีความเข้าใจสถานการณ์และแนวทางที่ประเทศไทยกำลังดำเนินอยู่ รวมทั้งให้เวลากับไทยเพื่อให้ประชาธิปไตยกลับคืนมาอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ขณะนี้กระบวนการต่างๆ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดังนั้น จึงยังไม่ควรเร่งตัดสินการดำเนินการของไทย ซึ่งการมีแผนการ Road Map และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ ก็เป็นข้อยืนยันพัฒนาการของไทยได้เป็นอย่างดี