นางแองเจลินา โจลี่ ผู้แทนพิเศษของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เดินทางเข้าร่วมงานวันผู้ลี้ภัยโลกซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทย

นางแองเจลินา โจลี่ ผู้แทนพิเศษของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เดินทางเข้าร่วมงานวันผู้ลี้ภัยโลกซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 26 มิ.ย. 2557

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565

| 1,720 view

เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันผู้ลี้ภัยโลก นางแองเจลินา  โจลี่ ผู้แทนพิเศษของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาร์ในประเทศไทย ที่พื้นที่พักพิงชั่วคราวบ้านใหม่ในสอย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยผู้แทนพิเศษได้เดินทางเข้าพื้นที่พักพิงในช่วงบ่ายเพื่อเยี่ยมครอบครัว ผู้หนีภัย ถ่ายทำสารคดีสั้น และพบปะพูดคุยกับสมาชิกกรรมการพื้นที่พักพิง  

ใน โอกาสนี้  ในระหว่างการหารือระหว่างผู้แทนพิเศษและสมาชิกกรรมการพื้นที่พักพิง ผู้แทนพิเศษได้แสดงความขอบคุณประเทศไทยที่ให้การดูแลผู้หนีภัยเป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลากว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมา และยินดีที่ได้รับทราบจากผู้แทนกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง และยังให้การสนับสนุนการพัฒนาสภาพความเป็นอยู่ของผู้หนีภัย รวมทั้งการเตรียมความพร้อมผู้หนีภัยในด้านทักษะอาชีพ เช่น สนับสนุนโครงการพัฒนาทักษะด้านการเกษตร

ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน  นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นประธานเปิดงานวันผู้ลี้ภัยโลกซึ่งจัดขึ้น ในพื้นที่พักพิงบ้านใหม่ในสอย โดยได้กล่าวถึงการที่ประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยจำนวนกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน มาเป็นเวลากว่า ๓ ทศวรรษบนหลักมนุษยธรรม โดยร่วมมือกับ UNHCR องค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ประเทศผู้บริจาค และองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้หนีภัยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยต่างได้รับพระมหากรุณาธิคุณและอยู่ใต้ พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เช่นเดียวกับคนไทยทั้งหลาย  ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนยังเน้นความสำคัญของการพัฒนาทักษะและส่งเสริม การฝึกอาชีพให้กับผู้หนีภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้หนีภัยนำไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตได้โดยการพึ่งพาตนเองอย่าง ยั่งยืน  รวมทั้งย้ำว่าการแก้ไขปัญหาและหาทางออกอย่างยั่งยืนให้กับผู้หนีภัยการสู้รบ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน บนหลักความรับความรับผิดชอบร่วมกัน 

วัน ผู้ลี้ภัยโลกถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะกระตุ้นให้สาธารณชนได้ตระหนักถึงความยาก ลำบากที่ผู้ลี้ภัยทั่วโลกต้องประสบ  ในขณะนี้ ผู้ลี้ภัย ผู้พลัดถิ่นในประเทศ และผู้แสวงหาที่พักพิงทั่วโลกมีจำนวนสูงถึงกว่า ๕๑ ล้านคน นับเป็นสถิติที่สูงสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา  โดยนางแองเจลินา โจลี่ ได้ใช้โอกาสที่มาเยี่ยมผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาร์ในไทย  เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อยุติและป้องกันความขัดแย้งซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้อง พลัดถิ่นที่อยู่  รวมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยในไทยต่อ ไป ควบคู่ไปกับการช่วยเตรียมความพร้อมในเมียนมาร์สำหรับการเดินทางกลับอย่าง ปลอดภัยและยั่งยืนของผู้หนีภัยเหล่านี้