กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมสารนิเทศและสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม ได้นำคณะนาฏศิลป์จากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และคณะสาธิตหัตถกรรมไทย ไปเผยแพร่ในงาน Dances of the Kingdom ณ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ ๒๐ ปี ประชาธิปไตยและอิสรภาพของแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ ๒๖ พฤษภาคม – ๘ มิถุนายน ๒๕๕๗ ณ กรุงพริทอเรีย นครเคปทาวน์ และเมืองสเตเลนบอช โดยมีการแสดง  ๓ รอบ ดังนี้

๑. โรงละครออลา (The Aula Theatre) ภายในมหาวิทยาลัยพริทอเรีย เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ มีผู้เข้าชมประมาณ ๗๐๐ คน ประกอบด้วย คณะทูตานุทูต ผู้แทนจากภาครัฐและเอกชน นักเรียนนักศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไป โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงาน ได้แก่ Dr. Anil Sooklal  รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศแอฟริกาใต้ Dr. Gerard De Kamper, Acting Director Faculty of Arts รวมทั้ง นาย Ebrahim Ebrahim อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศแอฟริกาใต้
๒. โรงละคร เอช บี ทอม (H.B. Thom Theatre) ภายในมหาวิทยาลัยสเตเลนบอช เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ ๒๐๐ คน ประกอบด้วยข้าราชการ อาจารย์ นักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจในการแสดงทางวัฒนธรรม โดยมีนาย Martin Smuts รองนายกเทศมนตรีเมืองสเตเลนบอช และศาสตราจารย์ Marie Kruger คณบดี คณะศิลปะการแสดงเป็นแขกเกียรติยศ
๓. โรงละครลิตเติ้ลเธียเตอร์ (The Little Theatre) ภายในมหาวิทยาลัยเคปทาวน์ เมื่อวันที่๖ มิถุนายน ๒๕๕๗ มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ ๒๕๐ คน ประกอบด้วย คณะทูตานุทูต ข้าราชการ อาจารย์ นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ในโอกาสนี้ นายวรเดช วีระเวคิน เอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย กล่าวว่าการกระชับความสัมพันธ์ในระดับประชาชนโดยเฉพาะเยาวชน เพื่อสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรมของกันและกัน จะนำไปสู่ความร่วมมือทวิภาคีที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ คณะฯ ยังได้ร่วมแสดงในกิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ งาน Thai Kitchen to the World ที่นครโจฮันเนสเบิร์ก ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าไทยในพริทอเรีย งาน Thai Crafts and Culture Coffee Morning และงาน Charity Bazaar and Family Fun Day จัดโดยภริยาคณะทูตานุทูตประจำกรุงพริทอเรียด้วย ซึ่งนายวรเดช วีระเวคิน เอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย ได้ใช้โอกาสนี้สร้างความเข้าใจในเรื่องสถานการณ์การเมืองไทย โดยเน้นถึงความพยายามที่จะปฏิรูปและวางรากฐานให้ไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและเพื่อนำความสงบสุขกลับมาสู่ประเทศ ดังเช่นที่แอฟริกาใต้ประสบความสำเร็จมาแล้วเช่นกัน   โครงการดังกล่าวช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ประเทศไทยอย่างรอบด้าน สร้างความรู้จักประเทศไทยในหมู่ชาวแอฟริกาใต้และดึงดูดนักท่องเที่ยวมาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย