เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557  นายนิลส์ ชมิด (Dr.Nils Schmid) รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและเศรษฐกิจแห่งรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีได้นำคณะผู้แทนฝ่ายนิติบัญญัติและภาคเอกชนเยอรมัน เดินทางเยือนไทย ระหว่างวันที่ 27 – 29 เมษายน 2557 โดยเข้าเยี่ยมคารวะนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ   นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ

ในระหว่างการเข้าเยี่ยมคารวะ นายกรัฐมนตรีได้แจ้งแนวทางของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองตามครรลองประชาธิปไตย โดยการเลือกตั้งจากประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งฝ่ายเยอรมนีได้แสดงการสนับสนุนต่อแนวทางดังกล่าว นอกจากนี้ ฝ่ายเยอรมนีได้แสดงความเชื่อมั่นต่อพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทย และการที่ไทยมีนโยบายส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายได้แสดงเจตจำนงที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของไทยในมิติ ดังนี้ ความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาภายใต้ระบบการศึกษาทวิภาคี ความร่วมมือด้านเกษตรแปรรูปและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
และพลังงานหมุนเวียน 

สำหรับการพบหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฝ่ายเยอรมนีเน้นประเด็นหารือเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทย นโยบายเศรษฐกิจเสรีและการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของไทย ส่วนในการพบหารือกับนายจาตุรนต์ ฉายแสง ไทยและเยอรมนีเห็นพ้องในการส่งเสริมความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี

ในช่วงการหารือกับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายชื่นชมพัฒนาการของความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-เยอรมนีที่แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน โดยฝ่ายเยอรมนีกล่าวว่าภายหลังที่ได้พบหารือกับบุคคลระดับสูงของฝ่ายไทยแล้ว ฝ่ายเยอรมนีมีความเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และสนใจที่จะขยายการลงทุนในไทย ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ย้ำถึงความสำคัญของไทยในฐานะที่เป็นประตูสู่อาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงข่ายเส้นทางคมนาคมในอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเอื้ออำนวยต่อการลงทุนจากต่างประเทศนอกเหนือจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนและศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และแนวทางแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเมืองบนพื้นฐานของหลักการประชาธิปไตย

การเยือนไทยครั้งนี้ของนายนิลส์ ชมิด ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ กล่าวคือ ได้เห็นศักยภาพของไทยในฐานะที่เป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของเยอรมนีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เข้มสแข็งของไทยในการเป็นประตูสู่อาเซียน การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนของรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์กกับไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสาขาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน คณะผู้แทนฝ่ายเยอรมันได้เยี่ยมชมโรงงาน Thailand Auto Parts and Accessories Fair 2014 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นอกจากนี้ ยังนำคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาจากวิทยาลัยในรัฐบาเดินเวือร์ทเทมแบร์กซึ่งเปิดสอนสาขาวิชาวิศวกรรมยานยนต์และเครื่องจักรกล มาศึกษาดูงานที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาของไทย เพื่อกระชับความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีในระหว่างการเยือนครั้งนี้ด้วย

รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์กเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญในเยอรมนี เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรกลของประเทศ สภาพเศรษฐกิจของรัฐมีความมั่นคง ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงกว่าของทั้งประเทศ มีอัตราว่างงานร้อยละ 4.1 ซึ่งต่ำเป็นลำดับสองในเยอรมนี ภาคอุตสาหกรรมสร้างรายได้ให้แก่รัฐประมาณร้อยละ 29  และร้อยละ 65 เป็นอุตสาหกรรมและการผลิตเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับเครื่องจักรกล ยานยนต์ และเครื่องมือวิศวกรรม รัฐนี้ยังเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำของเยอรมนี อาทิ Daimler, Bosch, Porsche, Würth, Carl Zeiss และ SAP