เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๗ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแก่คณะทูตต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศในประเทศไทย ณ ห้องเรียนรวม วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร โดยมีเอกอัครราชทูต ๓๑ ท่าน และผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตและองค์การระหว่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น ๖๕ คนเข้าร่วม

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงถึงความจำเป็นในการประกาศใช้พระราชกำหนดฯ ว่าสืบเนื่องจากการประเมินของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ซึ่งทาง ศอ.รส. ได้ประเมินแล้วว่าสถานการณ์การชุมนุมจะทวีความรุนแรงมากขึ้น และทาง ศอ.รส. ก็ไม่ต้องการใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นเช่นกัน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือในแง่ของกฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อย

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้อธิบายให้คณะทูตและตัวแทนองค์การระหว่างประเทศในรายละเอียดเกี่ยวกับพระราชกำหนดฯ ว่า ไม่ได้เป็นการห้ามการชุมนุมแต่อย่างใด หากเป็นการชุมนุมโดยสันติ นอกจากนี้ พระราชกำหนดฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้กำลังในการแก้ไขสถานการณ์ รวมทั้งไม่ได้จำกัดสิทธิ์ใดๆ ของประชาชน โดยเฉพาะการห้ามออกนอกเคหสถาน (curfew) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจะยังปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้นต่อไปเพื่อควบคุมสถานการณ์ และดูแลคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้ เพื่อความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) สำนักงานกรุงเทพฯ ให้จัดเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์เพื่อติดตามความเรียบร้อยของการชุมนุม