ด้วยระหว่างวันที่ 8 กันยายน - 6 ตุลาคม 2556 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ได้นำคณะนักศึกษาไทยมุสลิมจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาลเขตปัตตานี รวม 4 คน ได้แก่ นายวุฒิชัย รักษา นายสุรัตน์ สุดดำ นายรอเชด บูเดียะ และนาย อิสมาแอ มะซะ เดินทางเยือนดูไบ เพื่อเข้าร่วมโครงการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาแด่เยาวชนไทยมุสลิมจากจังหวัดชายแดนใต้ โดยเข้ารับการฝึกอบรมภาษาและวัฒนธรรมอาหรับระยะสั้น ณ University of Wollongong in Dubai (UOWD) เป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษา วัฒนธรรม สังคม และเปิดโลกทัศน์สำหรับเยาวชนไทยมุสลิมจากจังหวัดชายแดนใต้
การดำเนินโครการในครั้งนี้ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้เข้ารับการฝึกอบรมภาษาและวัฒนธรรมอาหรับระยะสั้น ณ UOWD ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวมีการสอนภาษาอารบิก โดยเน้นบทสนทนาและการฝึกไวยกรณ์ภาษาอารบิก ตลอดจนการพาคณะนักศึกษาทัศนศึกษาสถานที่สำคัญต่าง ๆ ในดูไบ อาทิ Jumeirah Mosque, ตลาดท้องถิ่น ตลาดทอง ตลาดปลา พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นดูไบ เขตเมืองเก่า ฯลฯ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สัมผัสถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาว UAE และชาวต่างชาติในดูไบ ตลอดจนฝึกฝนการใช้ภาษาอารบิกในชีวิตประจำวันในสถานการณ์ต่าง ๆ
นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ยังได้จัดให้คณะนักศึกษา เดินทางเยี่ยมชม Sheikh Zayed Grand Mosque ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาของ UAE โดยมัสยิดดังกล่าว เป็นสถานที่ใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาที่สำคัญของชาติ และเป็นสถานที่ฝังพระศพของ H.H. Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyan อดีตผู้ก่อตั้งประเทศ และประธานาธิบดี UAE ตลอดจนเดินทางเยี่ยมเยือนและพบปะพูดคุยกับนักเรียนไทยมุสลิม ที่ได้รับทุนจากรัฐบาล UAE ให้ศึกษาเล่าเรียนในระดับมัธยมศึกษาที่เมืองอัลเอน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นระหว่างกันด้วย
ทั้งนี้ ระหว่างช่วงเวลาที่คณะนักศึกษาพำนักอยู่ในดูไบ ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ สถานกงสุลใหญ่ฯ ร่วมกับชุมชนไทยในดูไบและรัฐใกล้เคียงได้จัดขึ้น อาทิ การเข้าร่วมการแข่งขันโยนโบว์ลิ่งกระชับความสัมพันธ์ของชุมชนไทย และเข้าร่วมเป็นกองเชียร์ทีมวอลเล่ย์บอลไทยในการแข่งขันวอลเล่ย์บอลชาย ชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 17 ณ เมืองดูไบด้วย
อนึ่ง โครงการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาแด่เยาวชนไทยมุสลิมจากจังหวัดชายแดนใต้ เป็นโครงการของสถานกงสุลใหญ่ฯ โดยมีวัตุประสงค์ เพื่อให้นักศึกษาไทยมุสลิมจากจังหวัดชายแดนใต้ได้เปิดโลกทัศน์ และแลกเปลี่ยนความรู้ วัฒนธรรม ตลอดจนสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของประเทศมุสลิมสายกลาง เพื่อโอกาสในการขยายความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาอย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ และยกระดับบทบาทของไทยในด้านการศึกษา โดยเป็นการส่งเสริมและเพิ่มพูนบทบาทของประเทศไทยใน การปลูกฝังการอยู่ร่วมกันในสังคมแก่เยาวชน และประชาสัมพันธ์บทบาทของไทยในการใช้การศึกษาแก้ไข ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนใต้ด้วย