เมื่อวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก / ตัวแทนประเทศไทยในการต่อสู้คดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าคณะดำเนินคดีของประเทศไทยได้มีการประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ เพื่อหารือเกี่ยวกับพัฒนาการของคดีฯ และการเตรียมความพร้อมต่อคำตัดสินที่จะมีขึ้น  โดยมีผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประกอบด้วยสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม  กองทัพบก  กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ  โดยหารือในประเด็นต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ 

๑.  กำหนดการตัดสินคดีฯ ของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก)  ที่ประชุมฯ รับทราบว่าโดยพิจารณาจากตารางการทำงานของศาลโลก ซึ่งปัจจุบันยังมีคดีก่อนหน้าคงค้างอยู่  ซึ่งยังต้องใช้เวลาพิจารณาจึงเป็นไปได้ที่ศาลฯ จะตัดสินคดีตีความฯ ระหว่างไทยกับกัมพูชาในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เป็นอย่างเร็ว ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่า กำหนดเวลาดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์ของฝ่ายไทยโดยพิจารณาจากตารางภารกิจของศาลฯ เป็นสำคัญ

๒.  การเตรียมความพร้อมของไทยต่อคำพิพากษา ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมด้านการเมือง การทูต การทหาร และการประชาสัมพันธ์ เพื่อรองรับคำพิพากษาในทุกกรณีที่เป็นไปได้ กล่าวคือ ๑) กรณีศาลฯ ตัดสินว่าศาลฯ ไม่มีอำนาจตีความ หรือตัดสินว่ามีอำนาจ แต่ไม่มีเหตุต้องตีความ ๒) กรณีศาลฯ ตัดสินตามแนวทางของกัมพูชา ๓) ศาลฯ ตัดสินตามแนวทางของไทย และ ๔) ศาลฯ ตัดสินแบบกลาง ๆ ทั้งนี้ ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ว่าในขณะนี้มีความจำเป็นต้องตรึงกำลังทหารอย่างไรหรือไม่ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า สถานการณ์บริเวณชายแดนยังคงเป็นปกติ จึงไม่จำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าว

๓. การจัดตั้งกลไกเพื่อรองรับคำพิพากษา ที่ประชุมได้เห็นพ้องในหลักการให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติของไทยเพื่อพิจารณาการดำเนินการเกี่ยวกับคดีฯ นอกจากนั้นได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมไทย–กัมพูชา เพื่อเจรจาหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำพิพากษา ซึ่งต้องหารือกับฝ่ายกัมพูชาก่อน และไม่ว่าผลการตัดสินของศาลโลกจะเป็นอย่างไร ทั้งสองฝ่ายควรจะร่วมมือกันต่อไปเพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ

๔. การประชาสัมพันธ์ ต่อประเด็นคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมของสาธารณชนไทยสำหรับคำตัดสินของศาลโลกที่จะมีขึ้น นั้น รองปลัดณัฏฐวุฒิฯ แจ้งว่ากระทรวงการต่างประเทศร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในกรณีปราสาทพระวิหารให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น ๒ ช่วง คือก่อนและหลังการให้การทางวาจาต่อศาลโลก (oral hearings) และได้ดำเนินการผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ และสื่อออนไลน์ ทั้งนี้ รวมถึงการสนับสนุนการจัดสัมมนาทางวิชาการในประเด็นที่เกี่ยวข้อง และการลงพื้นที่ในส่วนภูมิภาคเพื่อให้ความรู้แก่สาธารณชนจากภาคส่วนต่าง ๆ ล่าสุด เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๖ กระทรวงฯ ได้เผยแพร่หนังสือการ์ตูน “ปริศนาคดีปราสาทพระวิหาร” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะมีเนื้อหาสาระที่ประชาชนสามารถเข้าใจได้ง่าย ขณะนี้ กระทรวงฯ อยู่ระหว่างการจัดทำคลิปวีดิโอ และสารคดีเกี่ยวกับคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งคาดว่าจะเผยแพร่ในช่วงเวลาปลายปีหรือในช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนศาลฯ มีคำตัดสินต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ในช่วงศาลฯ อ่านคำพิพากษาว่าจะมีการถ่ายทอดสดหรือไม่นั้น ปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า คาดว่าจะมีการถ่ายทอดสดและการดำเนินการในส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง คล้ายกับการประชาสัมพันธ์ช่วงการให้การทางวาจาฯ เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๖