คณะผู้นำรุ่นใหม่ของลาวเข้าเยี่ยมคารวะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ

คณะผู้นำรุ่นใหม่ของลาวเข้าเยี่ยมคารวะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ

วันที่นำเข้าข้อมูล 9 ก.ย. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,570 view

เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๖ คณะผู้บริหารระดับรองเจ้าแขวง (เทียบเท่ารองผู้ว่าราชการจังหวัด) และหัวหน้าห้องว่าการ (เทียบเท่าปลัดจังหวัด) จาก ๕ แขวงภาคเหนือของลาว ประกอบด้วย อุดมไซ หัวพัน เชียงขวาง หลวงน้ำทา และ พงสาลี รวม ๑๐ คนเข้าเยี่ยมคารวะนายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ณ ห้องบัวแก้ว กระทรวงการต่างประเทศ
การเยือนดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการของกรมเอเชียตะวันออก ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้านที่จะเชิญบุคคลที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นระดับผู้นำในอนาคตของประเทศเพื่อนบ้านมาเยือนประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างทัศนคติที่ดีและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทย รวมทั้งทำความรู้จักและสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำรุ่นใหม่ทางการเมือง ภาครัฐ/เอกชน และภาคส่วนต่างๆของไทยด้วย
ในการเยี่ยมคารวะ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ฯ กล่าวต้อนรับคณะผู้บริหาร ฯ จากลาว และกล่าวว่าในอนาคตทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมทั้งทางรถยนต์และรถไฟ  โดยที่ ๕ แขวงดังกล่าวของลาวไม่มีเขตแดนติดต่อกับประเทศไทย ความร่วมมือต่าง ๆ จึงยังมีไม่มาก แต่การเดินทางไปพบหน่วยงานต่าง ๆ ของไทยทั้งภาครัฐและเอกชนในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งจังหวัดสุพรรณบุรี จะเป็นประโยชน์ เพราะนอกจากจะเห็นความคล้ายคลึงในเชิงวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการศึกษาระบบเศรษฐกิจและการค้าของไทยทั้งในเขตเมืองและเขตต่างจังหวัด
ผู้ช่วยรัฐมนตรี ฯ กล่าวว่าการเข้าพบหารือกับภาคเอกชนของไทยจะเป็นประโยชน์ต่อคณะผู้บริหาร ฯ จากลาวเพราะจะได้ทราบข้อมูลและเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนของไทย รวมไปถึงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจ และนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่ติดกับลาว ซึ่งทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ของทั้งสองประเทศดีขึ้นมาก  ลาวมีทรัพยากรทางธรรมชาติหลากหลาย ทั้ง แร่ธาตุ ถ่านหิน และพลังงาน ดังนั้น ไทยกับลาวจึงต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันละกัน นอกจากนี้ ในส่วนของนโยบายเศรษฐกิจ ไทยมีการปรับตัวทางการเงินการธนาคารมาตลอด และรัฐบาลก็พยายามกระตุ้นการใช้จ่ายด้วยโครงการลงทุนระยะยาวต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนในลาวโดยบริษัทขนาดใหญ่ของไทย
คณะผู้บริหาร ฯ จากลาว กล่าวขอบคุณ และแสดงความประสงค์ที่จะเรียนรู้การบริหารธุรกิจของไทย รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้สำหรับความร่วมมือในอนาคต  ทั้งนี้ การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟ ลาว – จีน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๑ จะสามารถรองรับนโยบายการเชื่อมโยงของรัฐบาลไทยได้ โดยทั้ง ๕ แขวงของลาวจะได้รับประโยชน์เพราะอยู่ในเส้นทางรถไฟ

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ