นายกรัฐมนตรีเรียกร้องทุกภาคส่วนร่วมกันบริหารจัดการน้ำโดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง

นายกรัฐมนตรีเรียกร้องทุกภาคส่วนร่วมกันบริหารจัดการน้ำโดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง

วันที่นำเข้าข้อมูล 20 ส.ค. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 1,938 view

เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงดูชานเบ ทาจิกิสถาน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมนานาชาติระดับสูงว่าด้วยความร่วมมือด้านน้ำ (High Level International Conference on Water Cooperation) ถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำร่วมกัน ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความขอบคุณทาจิกิสถานเจ้าภาพจัดการประชุม และขอบคุณหน่วยงานของสหประชาชาติสำหรับการจัดการประชุมนานาชาติระดับสูงว่าด้วยความร่วมมือด้านน้ำ หรือ High Level International Conference on Water Cooperation ที่สำคัญนี้ รวมทั้ง ได้กล่าวยินดีต่อความเป็นผู้นำของประธานาธิบดีทาจิกิสถานที่มีข้อริเริ่มในประเด็นการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ

การประชุมผู้นำที่เชียงใหม่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถึงการประชุมที่กรุงดูชานเบวันนี้ และการประชุมที่กรุงบูดาเปสในเดือนตุลาคมนี้ สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนและความตั้งใจทางการเมืองของทุกภาคส่วนที่จะมาร่วมมือกันในประเด็นน้ำ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้นยืนยันที่จะร่วมกับฟินแลนด์ ฮังการี และทาจิกิสถานที่องค์การสหประชาชาติ ในฐานะกรรมการขับเคลื่อนของเพื่อนสมาชิกด้านน้ำ เพื่อร่วมกันสร้างข้อริเริ่มใหม่ๆและวางแผนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่า คงไม่มีความจำเป็นต้องเตือนว่าน้ำเป็นแหล่งของทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของชีวิตและมนุษยชาติ หากปราศจากน้ำ ก็ปราศจากชีวิต ดังนั้น การเข้าถึงน้ำจึงเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกรัฐบาลที่ต้องปกป้องอย่างไม่สามารถมีข้อแก้ตัวได้ แต่น่าเศร้าใจในความจริงที่ว่า ยังคงมีประชากรเกือบพันล้านคนในโลกที่ยังไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาด โดยรายงานการพัฒนาของโลกหรือ World Development Report ประมาณการว่า ร้อยละ ๔๗ ของประชากรโลกจะอยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำสูงภายในปี ๒๐๓๐ และการขาดแคลนน้ำจะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งทางการเมืองและสงครามในอนาคต

รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ เว็บไซต์สำนักโฆษก ทำเนียบรัฐบาล