นายกรัฐมนตรีเตรียมการเยือนกลุ่มประเทศแอฟริกเพื่อเปิดตลาดใหม่และโอกาสการค้าการลงทุนไทย

นายกรัฐมนตรีเตรียมการเยือนกลุ่มประเทศแอฟริกเพื่อเปิดตลาดใหม่และโอกาสการค้าการลงทุนไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 26 ก.ค. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,925 view

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐโมซัมบิก สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย และสาธารณรัฐยูกันดา ระหว่างวันที่ ๒๘ กรกฎาคม - ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ซึ่งถือเป็นการเยือนเพื่อสร้างความสัมพันธ์และเปิดตลาดไทยในภูมิภาคแอฟริกา เนื่องจากทั้งสามเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง โดยโมซัมบิกมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง และเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเหมาะสำหรับนักลงทุนไทย นอกจากนี้ ทั้งสามประเทศอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ ก๊าซธรรมชาติ แร่ธาตุ และการประมง ซึ่งมีศักยภาพเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและวัตถุดิบที่สำคัญของไทย

สำหรับการเยือนสาธารณรัฐโมซัมบิกอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ ๒๘ - ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ถือเป็นการเยือนประเทศแอฟริกาอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีไทยในรอบ ๘ ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่างๆที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  การส่งเสริมการลงทุนของไทยในอุตสาหกรรมอัญมณี ซึ่งครั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้นำภาคเอกชนไทยเข้าไปแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีด้วย ทั้งนี้ โมซัมบิกมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงที่สุดประเทศหนึ่งในแอฟริกาตอนใต้ โดยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ ๑ ใน ๑๐ ของโลก มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ ๗.๙ และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีฯมีกำหนดการพบหารือทวิภาคีกับนายอาร์มันโด เอมิลิโอ กูเอบูชา ประธานาธิบดีโมซัมบิก การลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ ๕ ฉบับ การหารือกับประธานรัฐสภาโมซัมบิก และพิธีส่งมอบรถบรรทุก รถตุ๊กตุ๊ก ปลานิลแดง และมุ้งเคลือบสารกันยุงให้แก่โมซัมบิก

ในการเยือนสหสาธารณรัฐแทนซาเนีย เป็นการเยือนตามคำเชิญของนายจาคายา มริโช คิเควเต ประธานาธิบดีแทนซาเนีย และการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ ๓๓ ปี นับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันเมื่อปี ๒๕๒๓ โดยมุ่งกระชับความสัมพันธ์กับรัฐบาลแทนซาเนียและเสริมสร้างความร่วมมือในลักษณะของการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านวิชาการและการพัฒนาศักยภาพในสาขาที่แทนซาเนียต้องการและไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ ก๊าซธรรมชาติ เหมืองแร่ และการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการอนุรักษ์สัตว์ป่า โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีฯมีกำหนดการเข้าหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีแทนซาเนีย การร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ ๒ ฉบับ การกล่าว สุนทรพจน์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ไทยต่อแอฟริกาและ Thai – African Initiative และการเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเซเรงเกติ

การเยือนสาธารณรัฐยูกันดา เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายโยเวรี คากูทา มูเซเวนี ประธานาธิบดียูกันดา ภายหลังที่ประธานาธิบดียูกันดาเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ โดยในการเยือนในครั้งนี้เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือในลักษณะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา โดยภาคเอกชนไทยจะเข้าไปให้ความรู้ในสาขาที่ไทยเชี่ยวชาญ อาทิ การเกษตรกรรม การประมง และสาธารณสุข รวมถึง การเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้า เศรษฐกิจ และการลงทุน เพื่อเป็นพื้นฐานในความร่วมมือระหว่างกันต่อไป

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีฯจะนำภาคเอกชนในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ สาขาพลังงานทดแทน สาขาการก่อสร้าง สาขาการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สาขาสิ่งทอ สาขาอัญมณีและเครื่องประดับ และสาขายานยนต์ ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานเพื่อแสวงหาลู่ทางการลงทุน รวมถึงการให้ความรู้ทางด้านวิชาการทั้งในสาธารณรัฐโมซัมบิก สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย และสาธารณรัฐยูกันดาด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามได้ที่ เว็บไซด์สำนักโฆษก ทำเนียบรัฐบาล