นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมร่วมระหว่างเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ ประจำภูมิภาคอาเซียนและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ

นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมร่วมระหว่างเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ ประจำภูมิภาคอาเซียนและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ก.ค. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 20 พ.ย. 2565

| 2,707 view

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมร่วมระหว่างเอกอัครราชทูตประจำภูมิภาคอาเซียนและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีฯ กล่าวแสดงความรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสมาร่วมพบปะกับผู้เข้าร่วมการประชุมจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ  ผู้แทนส่วนราชการอื่นๆ และภาคเอกชน โดยนายกรัฐมนตรีฯกล่าวว่า หน่วยงานของรัฐจะต้องเข้าใจในเชิงลึก และถ่ายทอดความรู้และข้อมูลที่จำเป็นแก่ประชาชนและภาคเอกชน ในการเตรียมก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยจะต้องให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงของทั้งสามเสาหลัก ซึ่งประกอบด้วยประชาคมการเมืองและความมั่นคง ประชาคมเศรษฐกิจ และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม โดยประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญ คือ การเตรียมความพร้อมในเรื่องการเชื่อมโยง (Connectivity) ซึ่งแบ่งเป็น 3  มิติ คือ ความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความเชื่อมโยงด้านสังคมและวัฒนธรรม ความเชื่อมโยงด้านกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ

มิติความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในการสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาค รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อให้เกิดรถไฟความเร็วสูง โครงข่ายถนนเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน และการยกระดับจุดผ่านแดน ซึ่งจำเป็นต้องดูความพร้อมของทั้งประเทศเพื่อนบ้านและประเทศไทยควบคู่กัน หากมีการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านบริเวณจุดผ่านแดน ไทยและเพื่อนบ้านจะมีการบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้เกิดการแข่งขันกันในเรื่องการผลิตสินค้า จะต้องมีการจัดการผลิตสินค้าที่เสริมสร้างผลประโยชน์ให้แก่ทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดจะต้องอธิบายให้ประชาชนและภาคเอกชนเข้าใจถึงการทำ FTA กับประเทศต่างๆว่าจะส่งผลประโยชน์และผลกระทบในแง่เสียอย่างไร หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดต้องไปวางยุทธศาตร์แต่ละจังหวัดในการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศเพื่อนบ้าน

มิติความเชื่อมโยงด้านสังคมและวัฒนธรรม การเชื่อมโยงระหว่างประชาชนต่อประชาชนเป็นพื้นฐานสำคัญ โดยการสร้างความเข้าใจวัฒนธรรมและภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน  รวมถึง ความต้องการต่างๆของประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากจะทำให้อาเซียนเป็นมีความรักต่อกันและเป็นปึกแผ่นมากขึ้น ยังทำให้ไทยสามารถบริหารจัดการและปรับการผลิตสินค้าให้เข้ากับความต้องการของประเทศเพื่อนบ้านได้อีกด้วย นอกจากนี้ การเชื่อมโยงระหว่างประชาชนต่อประชาชนจะทำให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศอาเซียนเจริญเติบโต และมีการเชื่อมโยงระหว่างแหล่งวัฒนธรรมของประเทศในอาเซียน รวมทั้ง การเชื่อมโยงระหว่างแหล่งวัฒนธรรมของอาเซียนกับกลุ่มประเทศอื่นอีกต่อไปในอนาคต

มิติความเชื่อมโยงด้านกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ประเทศในอาเซียนควรมีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆที่ใกล้เคียงกันและจะต้องมีการปรับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆให้เสริมสร้างประโยชน์ให้แก่กัน นอกจากนี้ จะต้องวางแผนป้องกันบริเวณชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับความท้าทายต่างๆที่จะเข้ามาหลังจากการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน อาทิ แรงงานผิดกฎหมาย การลักลอบค้ามนุษย์ การลักลอบค้ายาเสพติด

ที่มา: www.thaigov.go.th

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ