เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๖ และการประชุมรัฐมนตรีมิตรของประเทศลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๓ ที่บันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม โดยมีนายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เป็นประธานการประชุมทั้งสอง และมีผู้แทนจากกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนามเข้าร่วมด้วย

ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๖ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศแสดงความชื่นชมต่อความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และกล่าวชื่นชมการทำงานของกรอบ LMI ซึ่งเกื้อหนุนกรอบความร่วมมืออื่นๆในอนุภูมิภาคที่มีอยู่แล้ว เช่น ACMECS ซึ่งต่างมีจุดมุ่งหมายที่จะลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของสมาชิกอาเซียน รวมทั้งความพยายามของประเทศ ผู้เข้าร่วมในกรอบ LMI ที่จะทำให้แผนงานสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของอาเซียน

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศย้ำความสำคัญของความร่วมมือในกรอบ LMI ๔ ประเด็น ได้แก่ ความเชื่อมโยง สาธารณสุข สิ่งแวดล้อมและน้ำ และการศึกษา ด้านความเชื่อมโยง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศย้ำการบูรณาการด้านระเบียบและกฎหมายการข้ามแดนและยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะแสดงบทบาทอย่างแข็งขัน ในอนุภูมิภาคนี้ ด้านสาธารณสุข ไทย สหรัฐฯ และเมียนมาร์ อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการไตรภาคีด้านการป้องกันและควบคุมปัญหาไข้มาเลเรียบริเวณชายแดนไทย - เมียนมาร์ ซึ่งรูปแบบของโครงการนี้จะเป็นต้นแบบที่เหมาะสมจะนำมาใช้กับโครงการอื่นๆ ในกรอบ LMI ในอนาคต

ในประเด็นสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเสนอข้อริเริ่ม ๒ ประการ ได้แก่ การพัฒนาระบบการพยากรณ์อากาศแบบบูรณาการเพื่อช่วยให้ภูมิภาคสามารถเตรียมพร้อมรับมือต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการจัดฝึกอบรมเรื่องการป้องกันและควบคุมไฟป่า ในประเด็นการศึกษา ปลัดกระทรวงการต่างประเทศแจ้งความพร้อมของไทยที่จะดำเนินโครงการเสริมสร้างทักษะการสื่อสารแบบมืออาชีพสำหรับผู้นำ ระยะที่ ๒ กับสหรัฐฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารของผู้เชี่ยวชาญในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานร่วมกัน รวมทั้งช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนในภูมิภาคด้วย

ในการประชุมรัฐมนตรีมิตรของประเทศลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๓ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศย้ำบทบาทของไทยในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในอนุภูมิภาค โดยได้ดำเนินโครงการในลักษณะทวิภาคีกับประเทศในอนุภูมิภาค ควบคู่กับการดำเนินการร่วมกับประเทศหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอื่นๆ ด้วย โครงการความร่วมมือในอนุภูมิภาคมีหลากหลายสาขา เช่น การส่งเสริมความเชื่อมโยงเพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวของสินค้าและผู้คนข้ามระเบียงครอบคลุมเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคและการบริหารจัดการน้ำ