รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเรียกร้องให้อาเซียนร่วมมือกับจีน ญี่ปุน และเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิดเพื่อการผงาดของเอเชีย

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเรียกร้องให้อาเซียนร่วมมือกับจีน ญี่ปุน และเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิดเพื่อการผงาดของเอเชีย

วันที่นำเข้าข้อมูล 30 มิ.ย. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 2,333 view

เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน+๓ (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ที่บันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำให้อาเซียน+๓ ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในบริบทของการผงาดของเอเชีย (The Rise of Asia) โดยยกระดับความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน และรักษาสันติภาพและเสถียรภาพทั้งในภูมิภาคและนอกภูมิภาค

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำประเด็นสำคัญและเร่งด่วนของความร่วมมือในกรอบอาเซียน+๓ โดยเน้นว่าความเชื่อมโยงในภูมิภาคเป็นเป้าประสงค์ทางยุทธศาสตร์สำคัญที่จะสนับสนุนการรวมตัวในภูมิภาคและผลักดันการจัดทำความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ทั้งนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนและขจัดอุปสรรค รวมทั้งแสวงหาวิธีที่คู่เจรจาของอาเซียนจะสามารถมีส่วนร่วมในการเพิ่มความเชื่อมโยงในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ อาเซียน+๓ ควรพิจารณาปรับปรุงกลไกการเงิน จัดตั้งสถาบันการเงินเฉพาะด้าน และใช้พันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เน้นความจำเป็นของการสร้างความเข้มแข็งในภูมิภาค โดยพัฒนากลไกต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาปัตยกรรมทางการเงิน โดยไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของข้อริเริ่มมาตรการพหุภาคีเชียงใหม่ โดยระดมเงินเพื่อจัดตั้งกองทุนระดับภูมิภาค ในลักษณะเดียวกันกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เพื่อใช้ในกรณีวิกฤต ซึ่งต่อยอดพัฒนาการของข้อริเริ่มเกี่ยวกับการออกพันธบัตรเอเชียในการส่งเสริมและสนับสนุนพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่น รวมทั้งปรับปรุงกฏระเบียบปฏิบัติและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอให้อาเซียน+๓ พิจารณาความเป็นไปได้ของการเพิ่มความเชื่อมโยงและความร่วมมือระหว่างตลาดทุนและตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค โดยอาจเริ่มจากการแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญ

ในเรื่องความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำความสำคัญของการรักษาความยั่งยืนของแหล่งอาหารและพลังงานเพื่อคนรุ่นต่อไป และเรียกร้องให้อาเซียน+๓ พัฒนาข้อริเริ่มเพื่อสำรองอาหาร ค้นคว้าพลังงานทางเลือกและพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ รวมทั้งการเติบโตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเห็นว่า ประเด็นที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดในกรอบอาเซียน+๓ คือการรับมือความท้าทายข้ามพรมแดน อาทิ การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศและสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาหมอกควันและน้ำท่วม ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีระบบพยากรณ์อากาศที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ โดยได้เสนอให้อาเซียนพัฒนาความร่วมมือกับประเทศ +๓ เพื่อแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและข้อมูลดาวเทียม รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพ ตลอดจนพัฒนาระบบการรายงานพยากรณ์อากาศของทั้งภูมิภาคอาเซียนที่แม่นยำและทันท่วงที นอกจากนี้ ยังได้เสนอให้มีการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการจัดการน้ำและการชลประทานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการฝึกซ้อมร่วมในการควบคุมและดับไฟป่า และการจัดการหมอกควันและรักษาคุณภาพของอากาศ เพื่อพัฒนาศักยภาพของอาเซียนในการจัดการภัยธรรมชาติ

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ