นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาและสาธารณรัฐมัลดีฟส์ อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๓๑ พฤษภาคม - ๒ มิถุนายน ๒๕๕๖ตามคำเชิญของประธานาธิบดีศรีลังกาและประธานาธิบดีมัลดีฟส์

ในการเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดหารือข้อราชการกับประธานาธิบดีของทั้งสองประเทศ โดยเน้นประเด็นการขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การก่อสร้าง และเกษตรอุตสาหกรรม รวมทั้งด้านวัฒนธรรม วิชาการ การส่งเสริมความเชื่อมโยงและการแลกเปลี่ยนภาคประชาชน

ในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเยือนกรุงโคลัมโบ เพื่อร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ และหารือข้อราชการกับนายมหินทะ ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกา รวมทั้งจะกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภาศรีลังกา หลังจากนั้น จะเดินทางไปเมืองแคนดี้ เพื่อกราบนมัสการพระมหาไนยกะฝ่ายมัลวัตตะและฝ่ายอัสคีรี หัวหน้าคณะสงฆ์ ๒ ฝ่ายของพุทธศาสนานิกายสยามวงศ์ในศรีลังกา และเข้าร่วมพิธีอุปสัมปทาที่วัดพระเขี้ยวแก้ว (Sri Dalada Maligawa) ซึ่งทางวัดได้เตรียมจัดพิธีฉลองและขบวนแห่ (Perahera) เพื่อให้เกียรติแก่ประเทศไทยและนายกรัฐมนตรีของไทย

 พิธีอุปสัมปทานี้ เป็นส่วนหนึ่งของการรำลึกถึงการสืบทอดพระพุทธศาสนาแบบเถรวาทในศรีลังกา ซึ่งพระอุบาลีมหาเถระจากราชสำนักพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยาเมื่อ ๒๖๐ ปี ก่อน เดินทางฝ่าฟันอุปสรรคนานับประการไปประกอบพิธีอุปสมบทแก่คณะสงฆ์และสามเณรที่ศรีลังกา ซึ่งถือเป็นการก่อตั้งนิกายสยามวงศ์ในศรีลังกา นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสวาระครบรอบ ๒๖๐ ปี แห่งการสถาปนาพุทธศาสนานิกายสยามวงศ์ในศรีลังกาด้วย

ในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๖ นายกรัฐมนตรีจะออกเดินทางจากศรีลังกาไปยังสาธารณัฐมัลดีฟส์ และมีกำหนดเข้าพบหารือกับ ดร.โมฮัมเหม็ด วาฮีด (Mohamed Waheed) ประธานาธิบดีมัลดีฟส์ โดยการเยือนครั้งนี้เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการโดยนายกรัฐมนตรีของไทยครั้งแรกในรอบ ๓๔ ปีนับตั้งแต่ไทยและมัลดีฟส์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อปี ๒๕๒๒ นอกเหนือจากการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว ผู้นำรัฐบาลทั้งสองจะหารือประเด็นสำคัญทางภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการจัดการภัยพิบัติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมการเคารพความหลากหลาย ความร่วมมือในกรอบสหประชาชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับกลุ่ม SAARC

การเยือนศรีลังกาและมัลดีฟส์ครั้งนี้จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ รวมทั้งขยายความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ การเดินทางของผู้แทนภาคธุรกิจร่วมกับนายกรัฐมนตรีไปยังศรีลังกาและมัลดีฟส์จะช่วยแสวงลู่ทางการค้าการลงทุนและขยายตลาดสินค้าของไทยในศรีลังกาและมัลดีฟส์ด้วย