นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีทั้งสองประเทศเตรียมเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ไทย–ลาว ครั้งที่ ๒ เพื่อผลักดันความร่วมมือต่างๆให้เกิดประโยชน์อย่างลึกซึ้ง ในวันอาทิตย์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ก่อนเริ่มการประชุมสุดยอดผู้นำด้านน้ำเอเชีย-แปซิฟิก ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่

โดยในการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองระหว่างการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS Summit) ครั้งที่ ๕ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องให้มีการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการ ไทย–ลาว ครั้งที่ ๒ หลังจากที่ว่างเว้นจากจัดการประชุมครั้งแรกเมื่อ ๘ ปีที่แล้ว (ปี พ.ศ. ๒๕๔๗) ที่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สปป.ลาวและจังหวัดอุบลราชธานี โดยการประชุมนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเป็นเวทีกระชับความสัมพันธ์ไทย-ลาวในระดับผู้นำระดับรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี โดยจะเน้นการหารือประเด็นสำคัญที่คั่งค้างและต้องอาศัยการเจรจาระดับสูงเพื่อให้สามารถหารือในเชิงลึกและมีผลเป็นรูปธรรม ภายใต้บรรยากาศความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง จริงใจ และเต็มไปด้วยไมตรีจิตและมิตรภาพที่ดีต่อกัน

ในการประชุมครั้งที่ ๒ นี้ ไทยและลาวจะร่วมกันหารือผลักดันความร่วมมือที่อยู่ให้เกิดผลอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเร่งรัดให้มีความคืบหน้าในด้านต่างๆ ได้แก่ ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ครอบคลุมเรื่องความร่วมมือในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน การรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ปัญหาแรงงานและการค้ามนุษย์ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และความคืบหน้าการประกาศเปิดจุดผ่านแดนไทย-ลาว ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การอำนวยความสะดวกในการผ่านแดน การใช้ประโยชน์จากเส้นทางถนนหมายเลข ๘ และ ๑๒ และความคืบหน้าการประกาศใช้ ACMECS Single Visa หรือ ASV นอกจากนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ ๒๐ ปี การก่อตั้งสมาคมไทย–ลาว/ลาว–ไทย เพื่อมิตรภาพในปี ๒๕๕๖ นี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน สังคมและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศด้วย

ไทย–ลาว ถือเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในหลากหลายมิติ ทั้งทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม โดยทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินสัมพันธไมตรีมาด้วยความราบรื่น บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน และมีพัฒนาการบวกมาอย่างต่อเนื่อง ในด้านเศรษฐกิจ ไทยเป็นคู่ค้าลำดับที่ ๑ มีมูลค่า ๑๕๐,๑๓๕ ล้านบาท ซึ่งไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้น ๗๒,๗๗๑ ล้านบาท หรือร้อยละ ๔๘.๓๘ ในปี ๒๕๕๕ ในส่วนของการลงทุน ไทยเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับ ๓ มูลค่ารวม ๕,๗๓๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสาขาพลังงานไฟฟ้า ขนส่งและโทรคมนาคม ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ธนาคาร เป็นต้น และด้านการท่องเที่ยว มีคนไทยเดินทางไปลาวถึง ๑,๙๓๗,๖๑๒ คน มีคนลาวเดินทางมาไทย ๙๕๑,๐๙๐ คน