วันที่นำเข้าข้อมูล 28 มี.ค. 2556
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
(คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)
คำแถลงข่าวร่วมระหว่าง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปีเตอร์ โอนีล นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี
๒๕ มีนาคม ค.ศ. ๒๐๑๓
๑. นายปีเตอร์ โอนีล นายกรัฐมนตรีรัฐเอกราชแห่งปาปัวนิวกินี ได้ให้การต้อนรับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ในโอกาสเยือนปาปัวนิวกินี ในวันที่ ๒๕ มีนาคม ค.ศ. ๒๐๑๓ ซึ่งเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของผู้นำไทย โอกาสนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ไทย-ปาปัวนิวกินี และเป็นการเริ่มศักราชใหม่ในการขยายความร่วมมือและกระชับความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน ทั้งในระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ
๒. นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรแสดงความยินดีที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายไมเคิล โอกิโอ ผู้สำเร็จราชการแห่งปาปัวนิวกินี ซึ่งผู้สำเร็จราชการฯ ได้แสดงความชื่นชมต่อพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ของไทย ในการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย ผ่านโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ และในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้สำเร็จราชการฯ และนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีได้ถวายพระพรชัยมงคลมายังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ของไทยด้วย
การพัฒนาทางการเมือง
๓. ผู้นำทั้งสองย้ำความสำคัญของการตอบสนองต่อเสียงของประชาชน ในฐานะผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีทั้งสองต่างได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม
การกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี
๔. ผู้นำทั้งสองเน้นย้ำถึงความร่วมมือและพันธกรณีร่วมในด้านต่าง ๆ อันเป็นผลมาจากการหารือทวิภาคี โดยทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญต่อการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคีไทย-ปาปัวนิวกินี ซึ่งเป็นกลไกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่มีความสนใจร่วมกัน ครอบคลุมประเด็นการเมือง เศรษฐกิจ ความร่วมมือทางวิชาการ รวมถึงความท้าทายระหว่างประเทศ
๕. ผู้นำทั้งสองเห็นชอบให้การหารือทวิภาคีไทย-ปาปัวนิวกินีเป็นระดับปลัดกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ ซึ่งฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพการหารือ ฯ ครั้งแรก ทั้งนี้ หัวข้อของการหารือจะรวมไปถึงความร่วมมือทางวิชาการของไทยเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจไทย – ปาปัวนิวกินี
๖. นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีแจ้งให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรทราบถึงพัฒนาการทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และการสนับสนุนรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของภาครัฐ โดยนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีขอให้ฝ่ายไทยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การพัฒนารัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกับฝ่ายปาปัวนิวกินี
การค้าและการลงทุน
๗. ผู้นำทั้งสองตระหนักถึงศักยภาพในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีได้แสดงความยินดีที่มีภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในปาปัวนิวกินี และยินดีต้อนรับภาคเอกชนไทยในการแสวงหาลู่ทางและโอกาสทางธุรกิจในปาปัวนิวกินี โดยเฉพาะในสาขาพลังงาน ผลิตภัณฑ์เกษตร ประมง การท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งปาปัวนิวกินีจะทำให้เกิดการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองประสงค์ให้การเจรจาความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนบรรลุผลโดยเร็ว
ความร่วมมือทางวิชาการ
๘. ในด้านความร่วมมือทางวิชาการ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความพร้อมของประเทศไทยที่จะถ่ายทอดความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในสาขาการพัฒนาที่ปาปัวนิวกินีให้ความสำคัญในลำดับต้น อาทิ สาธารณสุข เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรกรรม ประมง การพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการท่องเที่ยว โดยในโอกาสดังกล่าว นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีได้แสดงความขอบคุณที่รัฐบาลไทยได้มอบชุดทดสอบเบื้องต้นสำหรับใช้ทดสอบอาหารและชันสูตรโรค ให้แก่ฝ่ายปาปัวนิวกินีระหว่างการเยือนครั้งนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีทั้งสองได้แสดงความยินดีที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการไทย-ปาปัวนิวกินี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนากระชับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป
การศึกษา
๙. นายกรัฐมนตรีทั้งสองต่างเห็นถึงความจำเป็นในการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยการจัดตั้ง “มุมประเทศไทย” (Thai Corner) ที่มหาวิทยาลัยแห่งปาปัวนิวกินีจะช่วยสร้างเสริมความสนใจเกี่ยวกับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนช่วยเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศด้วยอีกทางหนึ่ง
ความร่วมมือในระดับภูมิภาค
๑๐. ผู้นำทั้งสองย้ำความตั้งใจที่จะสนับสนุนความร่วมมือในระดับภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก และกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก นอกจากนี้ โดยที่ประชาคมอาเซียนจะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนการใช้ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและด้านยุทธศาสตร์จากความเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน โดยไทยสามารถเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ปาปัวนิวกินีเป็นประตูสู่ภูมิภาคแปซิฟิกใต้ได้
๑๑. นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินียังได้แจ้งประเด็นต่าง ๆ ที่กลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกให้ความสนใจ อาทิ การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติอื่น ๆ และแจ้งความพยายามของรัฐบาลปาปัวนิวกินีในการจัดการกับปัญหาข้างต้น โดยรัฐบาลปาปัวนิวกินีได้ขอรับการสนับสนุนจากไทยในประเด็นดังกล่าว
ประเด็นระหว่างประเทศ
๑๒. นายกรัฐมนตรีทั้งสองให้คำมั่นที่จะกระชับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาในประเด็นท้าทายระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะการขจัดความยากจน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการภัยพิบัติ ความมั่นคงทางอาหาร และการพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของ ความร่วมมือใต้-ใต้ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน ในฐานะกุญแจสำคัญอันจะนำไปสู่การแก้ไขประเด็นท้าทายระหว่างประเทศต่าง ๆ ต่อไป
บทสรุป
๑๓. นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี เห็นพร้อมร่วมกันที่จะคงการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างไทยและปาปัวนิวกินี เพื่อดำรงไว้ซึ่งมิตรภาพและการขยายความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป
๑๔. นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้เชิญเยือนประเทศไทย
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **