เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังอาคารสภาแห่งชาติเพื่อเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของมาดามปัก กึน-ฮเย ประธานาธิบดีคนใหม่และเป็นผู้นำสตรีคนแรก ของสาธารณรัฐเกาหลี

มาดามปัก กึน-ฮเย ได้เชิญนายกรัฐมนตรีเป็นแขกพิเศษเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี อันแสดงถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในฐานะผู้นำสตรี และมีกำหนดการพบและหารือกับนายกรัฐมนตรีภายหลังเสร็จสิ้นพิธี ซึ่งนับเป็นการหารือกับผู้นำต่างประเทศเป็นคนแรกของมาดาม ปัก กึน-ฮเย ในฐานะประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี และเป็นผู้นำสตรีเอเชียด้วยกัน ซึ่งจะได้ร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาคให้ก้าวหน้าและกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยพิธีการสาบานตนได้จัดขึ้นบริเวณภายนอกอาคารสภาแห่งชาติ โดยมีประชาชนและสื่อมวลชนในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเวลา ๑๐.๐๐ น. เริ่มด้วยการจัดการแสดงก่อนงานพิธีสาบานตน ซึ่งผู้แทนระดับสูงจากต่างประเทศทะยอยเดินทางถึงบริเวณพิธีซึ่งอยู่ด้านนอกหน้าอาคารสภาแห่งชาติ จากนั้น เวลาประมาณ ๑๐.๕๐ น. มาดามปัก กึน-ฮเย เดินทางถึงพิธี และเริ่มพิธีสาบานตน โดยพิธีสาบานตนฯ มีหัวข้อหลัก คือ “Opening the New Era of Hope: Unity, Progress and Into the Lives of the People” ซึ่งเน้นย้ำ ความปรองดองแห่งชาติและเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ( Inclusive Economy ) ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติของมาดามปัก กึน-ฮเย ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ ๖๐,๐๐๐ คน

มาดามปัก กึน-ฮเย ประธานาธิบดีคนใหม่แห่งสาธารณรัฐเกาหลี เป็นบุตรสาวคนโตของอดีตประธานาธิบดีปัก จุง-ฮี และเคยปฏิบัติหน้าที่สตรีหมายเลขหนึ่งเมื่ออายุเพียง ๒๒ ปีหลังจากมารดาถูกลอบสังหารเมื่อปี ๒๕๑๗ จนกระทั่งประธานาธิบดีปัก จุง-ฮี ผู้เป็นบิดาถูกลอบสังหารเมื่อปี ๒๕๒๒ มาดามปัก กึน-ฮเยมีประสบการณ์ในวงการเมืองมานาน เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภารวม ๕ สมัย และเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค Grand National Party ( GNP ) ช่วงปี ๒๕๔๗ - ๒๕๔๙ โดยมีส่วนช่วยให้สมาชิกพรรคจำนวนมากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง อีกทั้ง ถือเป็นผู้กอบกู้ชื่อเสียงของพรรค GNP จากวิกฤตศรัทธาการณีคอร์รัปชั้น จนทำให้พรรคฯได้รับชัยชนะได้เสียงข้างมากในสภาจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๕ และได้รับสมญานามจากสื่อมวลชนว่า“ราชินีแห่งการเลือกตั้ง” นโยบายสำคัญของรัฐบาลมาดามปัก กึน-ฮเย ยังคงมีลักษณะคล้ายคลึงกับนโยบายของประธานาธิบดีอี มยอง-บัก ซึ่งมาจากพรรคเดียวกัน แต่มาดามปักฯ พยายามปรับปรุงนโยบายบางด้านเพื่อลดความแตกต่างทางความคิดและพยายามแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจด้วยการขยายสวัสดิการทางสังคม และการดำเนินนโยบายที่ยืดหยุ่นในการดำเนินความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ อีกทั้ง เคยเยือนเกาหลีเหนือเมื่อปี ๒๕๔๕ ตามคำเชิญของรัฐบาลเกาหลีเหนือในขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญยัติแห่งชาติเกาหลีใต้สมัยที่ ๑๖ และได้พบกับนายคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือในขณะนั้นด้วย