เมื่อวันที่ ๘-๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ นายนาวิน บุญเสรฐ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายจักริน ฉายะพงศ์ อธิบดีกรมพิธีการทูต ได้นำคณะทูตานุทูตจาก ๓๒ ประเทศ และหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย รวม ๕๖ คน เดินทางไปทัศนศึกษาโครงการในพระราชดำริ ที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเพื่อเผยแพร่โครงการในพระราชดำริให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายต่อชาวต่างชาติ

ในวันแรกของการทัศนศึกษา คณะทูตานุทูตได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ ณ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีคุณหญิงประจิตต์ กำภู ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริษัทดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ให้การต้อนรับพร้อมบรรยายสรุปเกี่ยวกับการดำเนินงานของโรงงานหลวงฯ แก่คณะทูตานุทูต ในโอกาสนี้ คณะทูตานุทูตได้เยี่ยมชมอาคารสถานีอนามัยพระราชทาน (เดิม) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๕ เพื่อช่วยเหลือและยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรของชุมชนบ้านยางอำเภอฝาง และได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์โรงไฟฟ้าขนาดเล็กบ้านยาง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กแห่งแรกของประเทศไทย สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านยางและหมู่บ้านใกล้เคียงมีไฟฟ้าใช้ และเพื่อป้อนกระแสไฟฟ้าเข้าสู่โรงงานหลวงในยุคแรก

เช้าวันที่สอง คณะทูตานุทูตได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์ฝึกอบรมสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ในโอกาสนี้ หม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ได้ประทานการต้อนรับและบรรยายเกี่ยวกับความเป็นมาของโครงการหลวง และการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการฯ คณะทูตานุทูตได้เยี่ยมชมงานพัฒนาการเกษตรของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง และแปลงเพาะปลูกสตรอเบอรี่ที่บ้านนอแล ส่วนในช่วงบ่าย คณะทูตานุทูตได้เดินทางไปจังหวัดเชียงรายและเข้าเยี่ยมชมการทอผ้าและการทำเครื่องกระเบื้องเซรามิก ณ โครงการพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ในวันสุดท้าย คณะทูตานุทูตได้เข้าเยี่ยมชมพระตำหนักดอยตุง รวมทั้งรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับความเป็นมา แนวคิดและโครงการภายใต้มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงจากหม่อมราชวงศ์ ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง

อนึ่ง คณะทูตานุทูตได้ยกย่องและซาบซึ้งในพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงช่วยเหลือและสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนในบริเวณที่ห่างไกลความเจริญ คณะทูตานุทูตจากหลายประเทศเห็นว่าสามารถนำแนวคิดของโครงการในพระราชดำริที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปปรับใช้ในประเทศของตน และขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศในการจัดการทัศนศึกษาให้กับคณะทูตานุทูตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทยและส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้แทนทางการทูตในประเทศไทย