นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ ๕๓ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๙ – ๑๒ กันยายน ๒๕๖๓ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเข้าร่วม จำนวน ๒๗ ประเทศ และมีการประชุมทั้งสิ้น จำนวน ๑๙ การประชุม โดยไทยจะให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และความสำคัญของพหุนิยมและภูมิภาคนิยมในการรับมือกับความท้าทาย

รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะหารือร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสร้างประชาคมอาเซียนที่แน่นแฟ้นและตอบสนองต่อความท้าทายในรูปแบบต่าง ๆ ตามแนวคิดหลักในการเป็นประธานอาเซียนของเวียดนาม รวมถึงเรื่องการรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียนท่ามกลางสถานการณ์ในภูมิภาคและโลกที่มีความท้าทาย โดยเฉพาะผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙)

นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะใช้โอกาสนี้หารือเกี่ยวกับการเตรียมการการประชุมสำคัญที่จะเกิดขึ้น ได้แก่ ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๗ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน และรัฐมนตรีต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเกี่ยวกับพัฒนาการในภูมิภาคและระหว่างประเทศที่สำคัญ

เอกสารผลลัพธ์สำคัญที่จะมีการรับรองในการประชุมครั้งนี้ คือ แถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ ๕๓ ซึ่งจะมีสาระสำคัญย้ำถึงเจตนารมณ์ของประเทศสมาชิกอาเซียนที่จะเสริมสร้างประชาคมอาเซียน ตลอดจนส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงของภูมิภาค รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาในการเสริมสร้างความเป็นแกนกลางของอาเซียนในสถาปัตยกรรมในภูมิภาค รวมถึงขยายความร่วมมือในสาขาที่มีความสนใจร่วมกันเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายอุบัติใหม่ ตลอดจนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาค

ประเด็นสำคัญที่ไทยจะส่งเสริมและผลักดันในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ การฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และการใช้ประโยชน์จากกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-๑๙ และย้ำความสำคัญของพหุนิยมและภูมิภาคนิยมในการรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้น ทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ