กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2563

กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 24 ก.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 3,569 view
กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2563 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง 41 หน่วยงานเข้าร่วม กระทรวงฯ ได้นำเสนอรายงานการดำเนินงานด้านการต่างประเทศเชิงรุก เพื่อตอบสนองต่อผลกระทบจากโควิด-19 โดยใช้แนวทาง 5S/ 5 มี และการทูตเชิงเศรษฐกิจเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ทุกหน่วยงานร่วมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพ BIMSTEC และ APEC ของไทย พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งในและต่างประเทศ ที่เป็นด่านหน้าช่วยดูแลคนไทยในต่างแดน และจัดการให้คนไทยได้กลับบ้านโดยความเรียบร้อยแล้วกว่า 60,000 คน และย้ำให้ทุกส่วนราชการปรับแนวทางการทำงานแบบ New Normal
 
ในโอกาสนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้นำเสนอรายงาน “ทิศทางและการดำเนินงานด้านการต่างประเทศเชิงรุก เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์โลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส  COVID-19” โดยใช้แนวทางการขับเคลื่อน “การต่างประเทศ 5S/ 5 มี” ดำเนินการร่วมกับทุกส่วนราชการและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อมุ่งให้ประชาชนไทยและประเทศไทย “มี” 5 สิ่ง ได้แก่ (1) Security/ มีความมั่นคง (2) Sustainability/ มีความมั่งคั่ง ยั่งยืน (3) Standard/ มีมาตรฐานสากล (4) Status/ มีเกียรติภูมิและ (5) Synergy มีพลัง ในสภาพแวดล้อมของโลกที่ท้าทายในยุคโควิด-19 ตามแนวทาง “รวมไทยสร้างชาติ” ของนายกรัฐมนตรี
 
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถึงแนวทางในการขับเคลื่อนการทูตเชิงเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย โดยส่งเสริมความเชื่อมโยงและผลักดันการค้าในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและภูมิภาคอาเซียน ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน และร่วมมือรักษาทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำโขง ในขณะเดียวกันขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศต่าง ๆ และกลุ่มประเทศที่สำคัญต่อไป รวมทั้งผลักดันการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership :RCEP) ภายในปีนี้ 
 
นอกจากนี้ ทีมประเทศไทยทั้งในและต่างประเทศจะดำเนินงานร่วมกันเพื่อประชาสัมพันธ์จุดแข็งของประเทศไทยในเรื่องความมั่นคงด้านสาธารณสุข ด้านอาหาร การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและปลอดภัย เพื่อต่อยอดเศรษฐกิจไทยในยุควิถีใหม่ โดยเน้นมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัย เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ เข้ามาเที่ยว รักษาพยาบาล หรือมาทำงานในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มมีการย้ายฐานการผลิตและการลงทุนมาในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น 
 
นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกหน่วยงานร่วมสนับสนุนการที่รัฐบาลจะเป็นประธานและเจ้าภาพการประชุมกรอบความร่วมมือความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสําหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation: BIMSTEC) ระหว่างปี 2564-2565 ซึ่งเป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ และกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ในปี 2565 ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ APEC คือเมื่อปี 2546 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมประทับใจเหมือนกับที่ไทยทำได้สำเร็จในการเป็นประธานอาเซียนเมื่อปีที่แล้ว
 
นายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งในและต่างประเทศ ที่เป็นด่านหน้าช่วยดูแลพี่น้องประชาชนไทยในต่างแดน และในการจัดการให้คนไทยได้กลับบ้านโดยความเรียบร้อยแล้วกว่า 60,000 คน และดูแลให้คนไทยที่ยังพำนักในต่างประเทศ ติดต่อดูแลทุกข์สุข ส่งความช่วยเหลือให้คนไทยรู้สึกอบอุ่นใจตามนโยบายการทูตเพื่อประชาชน โดยหลังจากนี้ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว รัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้นักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งแรงงานต่างชาติเดินทางเข้าไทยภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่รัดกุม เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
 
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ใช้โอกาสนี้หารือกับหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ให้ติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ให้เกิดผลโดยเร็ว การบริหารจัดการงบประมาณให้ตอบสนองต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและปัญหาของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ การแก้ปัญหาเรื่องน้ำและภัยแล้ง รับฟังความต้องการของประชาชนในพื้นที่ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ลดขั้นตอนให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทันท่วงที และสอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสังคมผู้สูงวัย 
 
นายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ทุกส่วนราชการปรับแนวทางการทำงานแบบ New Normal ทำงานเชิงรุก รวดเร็ว รอบคอบ โปร่งใส สื่อสารให้ประชาชนทราบและสร้างความเข้าใจถึงงานที่หน่วยงานต่าง ๆ ทำในด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ