ภาพรวมการดำเนินงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของ สอท. ณ กรุงออสโล

ภาพรวมการดำเนินงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของ สอท. ณ กรุงออสโล

วันที่นำเข้าข้อมูล 14 เม.ย. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 1,544 view

ภาพรวมการดำเนินงานในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของ สอท. ณ กรุงออสโล

ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2563 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ประมาณ 1 เดือน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลได้เริ่มประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศไทย มาตรการต่าง ๆ และการดำเนินการของรัฐบาลไทยเพื่อแก้ปัญหาโรค COVID-19 ต่อมา เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 เมื่อมีการพบผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 รายแรกในนอร์เวย์ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เพิ่มความเข้มข้นและความถึ่ในการการประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โรค COVID-19 ในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ และมาตรการต่าง ๆ และนโยบายของรัฐบาลนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชนไทย โดยเน้นการให้ความสำคัญดูแลคุ้มครองชุมชนไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์กว่า 30,000 คน เพื่อให้รับทราบข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์และรวดเร็ว เพื่อปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องตามมาตรการต่าง ๆ รวมทั้ง เพื่อมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง สร้างขวัญและกำลังใจ ส่งเสริมสวัสดิภาพของชุมชนไทย โดยได้ดำเนินการ ดังนี้

  • ประชาสัมพันธ์ข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 และมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลไทย รัฐบาลนอร์เวย์ และรัฐบาลไอซ์แลนด์ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามช่องทางสื่อต่าง ๆ ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แก่ Facebook และเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างรวดเร็วสม่ำเสมอ นอกจากนี้ พัฒนาระบบฐานข้อมูลชุมชนไทยในลักษณะออนไลน์ โดยขอให้ชุมชนไทยลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อติดต่อช่วยเหลือในกรณีเร่งด่วนและฉุกเฉิน
  • เพิ่มช่องทางการสื่อสารโดยใช้ social media มากขึ้น โดยจัดตั้งกลุ่มไลน์เพื่อเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารกับชุมชนไทยในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที และเพื่อให้คนไทยช่วยกันเป็นหูเป็นตาดูแลคนไทยในพื้นที่ต่าง ๆ ที่อาจอยู่ห่างไกล นอกเหนือจากการติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ทางโทรศัพท์สาย hotline
  • โทรศัพท์ถึงชุมชนไทยในกลุ่มต่าง ๆ เช่น นักศึกษา เพื่อแสดงความห่วงใยและสอบถาม
    ความเป็นอยู่ เมื่อชาวไทยได้รับผลกระทบ โดยติดเชื้อ COVID-19 ในนอร์เวย์ 2 คน (ปัจจุบันอาการดีขึ้นและกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว) เอกอัครราชทูตฯ ได้โทรศัพท์ถึงชาวไทย 2 คนดังกล่าว เพื่อแสดงความห่วงใย ให้กำลังใจและสอบถามอาการ รวมทั้ง เสนอให้ความช่วยเหลือหากประสงค์
  • เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโลได้มีสารถึงชุมชนไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์เพื่อให้กำลังใจและสร้างความอบอุ่นใจแก่ชุมชนไทย และย้ำถึงการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่จะให้ความช่วยเหลือดูแลชาวไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์
  • สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยประสานหน่วยงานด้านสวัสดิการคุ้มครองแรงงานต่างชาติของนอร์เวย์ เพื่อติดตามเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาและการให้ความช่วยเหลือแก่แรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19
  • เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ชาวไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย
    สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกเอกสารรับรองและประสานแพทย์ไทยจิตอาสาในนอร์เวย์ เพื่อตรวจและออกใบรับรอง Fit to Fly และให้คำปรึกษาด้านสุขภาพแก่ชาวไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมทั้งได้จัดทำข้อมูลรายชื่อสถานพยาบาลในนอร์เวย์ที่สามารถออกใบรับรอง Fit to Fly สำหรับชาวไทยใช้ประโยชน์ด้วย  

    ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้ให้ความช่วยเหลือชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเดินทาง ซึ่งทำให้ไม่สามารถเดินทางออกจากนอร์เวย์ก่อนวีซ่าหมดอายุ โดยได้ออกหนังสือรับรองสำหรับแสดงต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศเจ้าบ้าน เพื่อป้องกันผลกระทบต่อบุคคลดังกล่าว

  • มอบหน้ากากอนามัยให้แก่ชุมชนไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยผ้าฝ้ายมัสลินจากประเทศไทย รวมทั้ง ได้รับการสนับสนุนจากผู้แทนชุมชนไทยในนอร์เวย์ จัดซื้อหน้ากากผ้าที่ตัดเย็บโดยฝีมือคนไทยในนอร์เวย์ มาสมทบเพิ่มเติมเพื่อมอบให้แก่ชุมชนไทยในพื้นที่ต่าง ๆ
  • เพื่อดูแลทุกข์สุขของชุมชนไทยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยไม่ขัดต่อมาตรการ social distancing ของทางการนอร์เวย์ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมวัดไทยต่าง ๆ ในกรุงออสโล เช่น วัดไทยนอร์เวย์ และวัดป่าชิปท์เว็ท เพื่อรับฟังและสอบถามความเป็นอยู่ของพระสงฆ์และชุมชนไทยในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19 รวมทั้ง เผยแพร่คติธรรมจากท่านเจ้าอาวาสวัดไทยเพื่อให้กำลังใจแก่ชุมชนไทยในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ โดยที่ชุมชนไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์มีศรัทธาในพุทธศาสนาอยู่แล้ว

                   สถานเอกอัครราชทูตฯ ตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะดูแลพี่น้องชาวไทยในนอร์เวย์และไอซ์แลนด์เพื่อให้มีสวัสดิภาพและสุขภาพที่ดีอย่างเต็มความสามารถ และเชื่อมั่นว่า ความแข็งแกร่งทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจจะช่วยให้ทุกคนร่วมกันผ่านพ้นวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้ด้วยดี  

 

ท่านสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ในช่องทาง ดังต่อไปนี้

Email: [email protected]

Facebook: Royal Thai Embassy Oslo

หมายเลขฉุกเฉิน +47 901 36 815 

#น้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ