เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ได้เดินทางไปพบหารือกับนาย Christian Moser รองประธานสภาหอการค้าของรัฐออสเตรียล่าง (WKÖ – Niederösterreich) ณ เมืองซังก์โพลเท็น ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐออสเตรียล่าง เพื่อทำความรู้จักและให้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันของสภาวะเศรษฐกิจ   การค้าและการลงทุนของไทย รวมทั้งประเด็นสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการลงทุน เพื่อเชิญชวนให้ภาคธุรกิจของออสเตรียไปลงทุนในไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายของโครงการเขต  พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รัฐบาลไทยให้การส่งเสริมมาโดยตลอด

ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้ชี้ให้เห็นโอกาสและศักยภาพของการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ซึ่งนักลงทุนต่างชาติจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อาทิ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate income tax) สูงถึง ๑๓ ปี หากเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ๑๒ อุตสาหกรรม ซึ่งบางสาขา เช่น ยานยนต์และพลังงาน เป็นสาขาที่ออสเตรียมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติยังสามารถเข้าไปลงทุนในธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) โดยได้รับสิทธิประโยชน์ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีบริษัทออสเตรียที่เข้าไปลงทุนในไทยแล้ว เช่น บริษัท Lenzing AG ได้เข้าไปลงทุนตั้งโรงงานผลิต เส้นใยไลโอเซลล์ในเขตอุตสาหกรรม ๓๐๔ จังหวัดปราจีนบุรี และบริษัท Gussing Renewable Energy GmbH  ซึ่งได้ตั้งโรงงานผลิตก๊าซเชื้อเพลิงจากมวลชีวภาพที่จังหวัดนครสวรรค์ นอกจากนี้ บริษัท Dlouhy ซึ่งเป็นธุรกิจ SMEs ผลิตเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับรถพยาบาลและผลิตรถพยาบาล ได้ติดต่อค้าขายกับไทยและมีความก้าวหน้าเติบโตขึ้นเป็นลำดับ การตัดสินใจลงทุนและขยายกิจการในไทยของบริษัทเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในโอกาสของการค้าและ การลงทุนในไทย โดยไม่ต้องพึ่งความตกลงการค้าเสรีใด ๆ

การพัฒนาอุตสาหกรรม ๔.๐ ที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม ไทยสามารถเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมจากออสเตรียได้ โดยเฉพาะในสาขาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เกษตรออร์แกนิก และเกษตรอัจฉริยะ เป็นต้น ซึ่งนาย Moser แจ้งว่า ยินดีสนับสนุนสถานเอกอัครราชทูตฯ ในการประชาสัมพันธ์ลู่ทางการค้าและการลงทุนในไทยให้แก่ภาคเอกชนและธุรกิจของรัฐออสเตรียล่าง รวมทั้งยินดีสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จะพิจารณาจัดในอนาคต นอกจากด้านการเกษตร รัฐออสเตรียล่างยังมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ขาวคุณภาพดีและ บริษัท SMEs ต่าง ๆ ให้ความสำคัญเรื่อง R&D เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ด้วย ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้มอบเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับอีอีซี และมาตรการส่งเสริมการลงทุนของไทยด้วย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนความเห็นในประเด็นสำคัญอื่น ๆ อาทิ ความร่วมมือระหว่างไทยและออสเตรียในด้านต่าง ๆ เช่น เมืองอัจฉริยะและนวัตกรรม การเป็นประธานอาเซียนของไทยรวมทั้งผลลัพธ์และความสำเร็จของการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๕ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง อาทิ การบรรลุความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) การเริ่มต้นเจรจาการเปิดการค้าเสรีระหว่างไทย-สหภาพยุโรป (Thai – EU FTA) อีกครั้ง และการท่องเที่ยวแนวใหม่ของไทยที่เน้นการเรียนรู้วิถีชีวิตไทย

รัฐออสเตรียล่างตั้งอยู่ห่างจากกรุงเวียนนาประมาณ ๙๐ กิโลเมตร เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรีย และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของออสเตรีย ในปี ๒๕๖๐ ร้อยละ ๑๕.๘ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของออสเตรียมาจากรัฐออสเตรียล่าง อุตสาหกรรมที่โดดเด่นของรัฐฯ ได้แก่ อุตสาหกรรมโลหะและเทคโนโลยีโลหะ อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ อุตสาหกรรมรถยนต์และเทคโนโลยียานยนต์ อุตสาหกรรมก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมดนตรี/กีฬา/leisure และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอาหาร นอกจากนี้ ยังมีศูนย์วิทยาศาสตร์ชั้นนำระดับโลก เช่น MedAustron Institute of Science and Technology (IST) และ Austria Institute of Technology (AIT)