ไทยร่วมอุปถัมภ์และรับรองร่างข้อมติฯ ที่เสนอในที่ประชุมวาระพิเศษฉุกเฉิน สมัยที่ ๑๐ ของสมัชชาสหประชาชาติ ในหัวข้อการปกป้องพลเรือนและการยึดมั่นในพันธกรณีด้านกฎหมายและมนุษยธรรม

ไทยร่วมอุปถัมภ์และรับรองร่างข้อมติฯ ที่เสนอในที่ประชุมวาระพิเศษฉุกเฉิน สมัยที่ ๑๐ ของสมัชชาสหประชาชาติ ในหัวข้อการปกป้องพลเรือนและการยึดมั่นในพันธกรณีด้านกฎหมายและมนุษยธรรม

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ธ.ค. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 13 ธ.ค. 2566

| 4,153 view

เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ ไทยร่วมกับสมาชิกสหประชาชาติมากกว่า ๑๐๐ ประเทศ ร่วมอุปถัมภ์และรับรองร่างข้อมติฯ ของอียิปต์ ที่เสนอในที่ประชุมวาระพิเศษฉุกเฉิน (Emergency Special Session: ESS) สมัยที่ ๑๐ ของสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly: UNGA) เกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ในหัวข้อการปกป้องพลเรือนและการยึดมั่นในพันธกรณีด้านกฎหมายและมนุษยธรรม (Protection of civilians and upholding legal and humanitarian obligations) มีสาระสำคัญเรียกร้องการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมโดยทันที (immediate humanitarian ceasefire) การปล่อยตัวประกันโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ

ผลการลงคะแนน สนับสนุน ๑๕๓ (รวมไทยและอาเซียนทุกประเทศ) คัดค้าน ๑๐ และงดออกเสียง ๒๓ ประเทศ

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council: UNSC) ได้พิจารณาร่างข้อมติ UNSC ที่เสนอโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีสาระไม่ต่างไปจากข้อมติ UNGA ESS ข้างต้น ซึ่งไทยเป็นหนึ่งใน ๑๐๒ ประเทศ ที่ร่วมอุปถัมภ์ร่างข้อมติฯ UNSC ดังกล่าว โดยร่างข้อมติฯ ไม่ได้รับการรับรอง ดังนั้น อียิปต์ (ในนามกลุ่มอาหรับ) และมอริเตเนีย (ในนามกลุ่มองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ OIC) จึงขอให้ประธานสมัชชาสหประชาชาติจัดการประชุม UNGA ESS ดังกล่าว ซึ่งกลุ่มประเทศ cross-regional countries รวมถึงไทย ได้มีหนังสือถึงประธานสมัชชาสหประชาชาติในนามกลุ่มเพื่อสนับสนุนคำขอของกลุ่มอาหรับและ OIC ให้จัดการประชุม UNGA ESS ข้างต้น