บทความ

บทความ

ขั้นตอนการใช้ช่องทางพิเศษ

ขั้นตอนการใช้ช่องทางพิเศษของไทย

 

    ประเทศไทยและ […………..…..]  ได้ตกลงกันจัดทำข้อตกลงช่องทางพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกระหว่างกันสำหรับการเดินทางที่จำเป็นของนักธุรกิจ แรงงานที่มีทักษะเฉพาะและผู้เชี่ยวชาญเชิงเทคนิค

    สำหรับบุคคลสัญชาติไทยที่มีความจำเป็นจะเดินทางไป […………..…..]  ผ่านช่องทางพิเศษ โปรดติดต่อ […………..…..] หรือเว็บไซต์ …………..…..

    สำหรับผู้ที่พำนักใน […………..…..]  ที่มีความจำเป็นเดินทางมายังประเทศไทยผ่านช่องทางพิเศษ
มีรายละเอียด ดังนี้

  1. คุณสมบัติของผู้เดินทาง  

    นักธุรกิจ แรงงานที่มีทักษะเฉพาะ หรือผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคที่ปัจจุบันพำนักใน […………..…..] ซึ่ง (1) ได้รับเชิญจากนิติบุคคลในประเทศไทยหรือส่วนราชการของไทย เพื่อเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยวัตถุประสงค์ทางธุรกิจแบบระยะสั้นไม่เกินสิบสี่วัน (14) วัน; (2) พำนักใน […………..…..] อย่างน้อย 14 วันก่อนวันเดินทางมา                   ประเทศไทย และ (3) ยินยอมที่จะปฏิบัติตามแผนการเดินทางที่ได้รับการอนุมัติแล้วอย่างเคร่งครัดและ                     ตามมาตรการป้องกันโรคของไทยที่บังคับใช้อยู่

  1. ขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้ช่องทางพิเศษ (ควรยื่นคำร้องอย่างน้อย 3 สัปดาห์ก่อนวันที่วางแผนจะออกเดินทางมาประเทศไทย)

    2.1 การขอหลักฐานรับรองการใช้ช่องทางพิเศษ (Fast Track Pass: FTP)

        2.1.1 ในกรณีที่ได้รับเชิญจากนิติบุคคลในประเทศไทย นิติบุคคลดังกล่าวจะเป็น “หน่วยงานผู้อุปถัมภ์” และจะเป็นผู้ยื่นคำร้องในนามผู้เดินทางเพื่อขอหลักฐานรับรองการใช้ช่องทางพิเศษ (FTP) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ของไทย ดังนี้

    - สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในกรณีที่หน่วยงานผู้อุปถัมภ์เป็นกิจการ                       ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI

    - กระทรวงอุตสาหกรรม ในกรณีที่หน่วยงานผู้อุปถัมภ์เป็นกิจการที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่ยังไม่หมดอายุและไม่ได้เป็นกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI

    - กระทรวงพาณิชย์ ในกรณีที่หน่วยงานผู้อุปถัมภ์จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทย มีคุณสมบัติและเข้าเงื่อนไขที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ไม่ได้เป็นกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน

        2.1.2 ในกรณีที่ได้รับเชิญจากส่วนราชการไทย (ระดับกระทรวงหรือหน่วยงานเฉพาะกิจ) นิติบุคคลใน […………..…..] ที่ผู้เดินทางเป็นพนักงานในสังกัด จะเป็น “หน่วยงานผู้อุปถัมภ์” และจะเป็นผู้ยื่นคำร้องในนาม                        ผู้เดินทางเพื่อขอหลักฐานรับรองการใช้ช่องทางพิเศษ (FTP) กับส่วนราชการไทยที่เชิญ

        2.1.3 เอกสารประกอบการยื่นขอหลักฐานรับรองการใช้ช่องทางพิเศษ (FTP)

                (1) ใบคำร้องขอใช้ช่องทางพิเศษ (สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ https://www.mfa.go.th/th/content/application-form)  

                (2) สำเนาหนังสือเดินทางของผู้เดินทาง

                (3) สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล

                (4) หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นลงนามในใบคำร้องแทนตัวแทนนิติบุคคล                       หรือกรรมการผู้มีอำนาจลงนามตามกฎหมาย พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางที่รับรองแล้ว                         ของผู้มอบอำนาจและผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ  

หมายเหตุ: หน่วยงานกลั่นกรองที่รับคำร้องสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกเอกสาร/หลักฐานแสดงคุณสมบัติอื่น ๆ เพิ่มเติม
ตามที่เห็นเหมาะสม

         2.1.4 เมื่อคำร้องขอใช้ช่องทางพิเศษได้รับการรับรองโดยส่วนราชการที่รับคำร้องแล้วจะส่งหลักฐานรับรองการใช้ช่องทางพิเศษ (FTP) กลับไปยังหน่วยงานผู้อุปถัมภ์

    2.2 การขอหลักฐานอนุมัติแผนการเดินทาง (Travel Plan Pass: TPP) (ใบสมัครขอรับหลักฐานอนุมัติแผน          การเดินทางสามารถดาวน์โหลดทาง http://www.mfa.go.th/application/travel_plan_form.pdf) ทั้งนี้ ผู้เดินทาง             จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเฉพาะในเส้นทางระหว่างบริษัท/โรงงานกับที่พักในสถานกักกันทางเลือก (Alternative State Quarantine: ASQ) (ดังปรากฏบนเว็บไซต์  http://www.hsscovid.com) และจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปสถานที่สาธารณะ และ/หรือติดต่อกับชุมชน 

        2.2.1 หน่วยงานผู้อุปถัมภ์จะต้องติดต่อสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)
(โทร. ............................... / ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: ..................................) เพื่อรับการจัดสรรทีมผู้ประสานงาน         การเดินทาง (Destination Management Company: DMC) ให้ผู้เดินทาง โดย DMC จะทำหน้าที่แทนหน่วยงาน ผู้อุปถัมภ์และผู้เดินทางในการติดต่อและประสานงานกับเจ้าพนักงานควบคุมโรคและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง                       เพื่อเตรียมการที่จำเป็นในการเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งรวมถึง (1) การจัดเตรียมยานพาหนะตลอดช่วงที่พำนักอยู่ในประเทศไทย (2) การประสานงานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของสถานที่ต่าง ๆ                  ที่ระบุในแผนการเดินทาง (3) การสำรองที่พักในโรงแรม ASQ (หากเลือกใช้บริการนี้) และ (4) การสำรองเที่ยวบิน  (หากเลือกใช้บริการนี้)

        2.2.2 เมื่อแผนการเดินทางได้รับการอนุมัติโดยเจ้าพนักงานควบคุมโรคแล้ว DMC จะแจ้งและส่งหลักฐานอนุมัติแผนการเดินทาง (TPP) รวมถึงหลักฐานรับรองการใช้ช่องทางพิเศษ (FTP) ให้กับหน่วยงานผู้อุปถัมภ์ หน่วยงานกลั่นกรอง และกระทรวงการต่างประเทศ (โทร. ..................... / ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: ........................) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

    2.3 การขอหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry: COE) และการตรวจลงตราประเภท Non-Immigration B

        เมื่อได้รับหลักฐานรับรองการใช้ช่องทางพิเศษ (FTP) และหลักฐานอนุมัติแผนการเดินทาง (TPP) แล้ว     ให้หน่วยงานผู้อุปถัมภ์ส่งเอกสารทั้งสองรายการให้ผู้เดินทาง เพื่อติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตหรือ                                 สถานกงสุลใหญ่ ใน […………..…..] เพื่อขอหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้                    (COE) และขอรับการตรวจลงตราประเภท Non-Immigration B ทั้งนี้ ผู้เดินทางที่มีตรวจลงตราประเภท                    Non-Immigration “B” “B-A” and “IB” ที่ยังไม่หมดอายุ ไม่จำเป็นต้องยื่นขอรับการตรวจลงตราใหม่                            เอกสารประกอบการขอ COE และขอรับการตรวจลงตรา ประกอบด้วย

         2.3.1 การขอหนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (COE)     

                             (1) หนังสือเดินทางและสำเนาหนังสือเดินทางของผู้เดินทางที่ได้รับการอนุมัติแล้วทุกราย

                           (2) สำเนาหลักฐานรับรองการใช้ช่องทางพิเศษ (FTP)

                            (3) สำเนาหลักฐานอนุมัติแผนการเดินทาง (TPP);

                            (4) ใบคำร้อง (declaration form) ที่ลงนามโดยผู้เดินแต่ละราย (ให้ผู้เดินทางติดต่อสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่สำหรับแบบฟอร์มใบคำร้องฯ);

                            (5) กรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล รวมถึงกรณีโรค COVID-19 ของผู้เดินทางตลอดระยะเวลาที่พำนักในไทยหรือหลักประกันอื่นใด (เช่น หนังสือรับรองจากหน่วยงานผู้อุปถัมภ์)    ในวงเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

                            (6) บัตรโดยสารเครื่องบินไป – กลับหรือเอกสารยืนยันเที่ยวบินของผู้เดินทางที่ได้รับ  การอนุมัติแล้วแต่ละราย

          2.3.2 การขอรับการตรวจลงตราประเภท Non-Immigrant Visa Category B - รายละเอียดปรากฏ                      ตาม http://www.consular.go.th/ main/th/other/7395          

  1. มาตรการก่อนการเดินทาง   

    3.1 ผู้เดินทางที่ได้รับการอนุมัติแล้วควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงหรือสถานที่สาธารณะ                         และควรสังเกตสถานะสุขภาพของตนเองอย่างน้อย 14 วันก่อนวันเดินทางมาประเทศไทย และผู้เดินทาง                      จะต้องแสดงเอกสารสำหรับขึ้นเครื่องบินขาออกจากประเทศต้นทางและที่ด่านขาเข้าในประเทศไทย ดังนี้

        (1) ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางมีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง (Fit to Fly health certificate) โดยเป็นใบรับรองที่ออกในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง

        (2) ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรค COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR โดยเป็นใบรับรอง                        ที่ออกในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนวันเดินทาง

        (3) หนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (COE)

        (4) กรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล รวมถึงกรณีโรค COVID-19 ของผู้เดินทาง                      ตลอดระยะเวลาที่พำนักในไทย หรือหลักประกันอื่นใด (เช่น หนังสือรับรองจากหน่วยงานผู้อุปถัมภ์) ในวงเงิน                      ที่ไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

        (5) การตรวจลงตราประเภท Non-Immigrant Visa B

    3.2 ผู้เดินทางจะต้องเข้ารับการคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศก่อนออกเดินทางและปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคที่กำหนดไว้

  1. มาตรการเมื่อเดินทางถึง ระหว่างพำนักและก่อนออกเดินทางจากประเทศไทย

    ผู้เดินทางที่ได้รับการอนุมัติจะต้องดำเนินการ ดังนี้

        - เข้ารับการคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ผู้เดินทาง ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ                            ก่อนเดินทางเข้าราชอาณาจักร ทั้งนี้ ปัจจุบัน อนุญาตให้ผู้เดินทางผ่านช่องทางพิเศษเดินทางเข้าราชอาณาจักร        ได้เฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหรือท่าอากาศยานดอนเมืองในกรุงเทพฯ

        - แสดงเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง

        - เข้ารับการตรวจหาเชื้อโรค COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR (ผ่านโพรงจมูก) อย่างน้อย 2 - 3 ครั้งตลอด
ช่วงระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย (วันที่เดินทางถึง ระหว่างพำนัก และก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย) ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เดินทางหรือหน่วยงานอุปถัมภ์ ทั้งนี้ เจ้าพนักงานควบคุมโรคจะกำหนดจำนวนการตรวจหาเชื้อโรค COVID-19 ของผู้เดินทางแต่ละรายเมื่อผู้เดินทาง/หน่วยงานผู้อุปถัมภ์ยื่นของรับหลักฐานอนุมัติ                        แผนการเดินทาง (TPP)

        - ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” และ “หมอชนะ” หรือแอปพลิเคชันอื่นบนโทรศัพท์เคลื่อนที่          ตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานควบคุมโรคที่ด่านขาเข้า โดยผู้เดินทางจะต้องใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวตลอดช่วงเวลาที่พำนักในประเทศไทย

        - พบ DMC ที่ท่าอากาศยาน ซึ่งจะเป็นผู้รับผู้เดินทางเพื่อเดินทางตรงไปยังโรงแรม ASQ

        - เดินทางออกจากท่าอากาศยานไปยังจุดหมายได้ในกรณีที่ผลการตรวจเชื้อโรค COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR ครั้งแรกเป็นลบ กรณีที่ผลการตรวจเชื้อโรค COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR เป็นบวก ผู้เดินทางจะต้องเข้ารับการรักษา                    ในประเทศไทย โดยหน่วยงานผู้อุปถัมภ์รับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือใช้ความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันสุขภาพ

        - ได้รับบริการตลอดช่วงเวลาที่พำนักในประเทศไทยโดยเจ้าหน้าที่ DMC ตามระเบียบที่เกี่ยวข้องของส่วนราชการไทย โดยผู้เดินทางหรือหน่วยงานผู้อุปถัมภ์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการบริการติดตามตัวดังกล่าว

        - เดินทางด้วยยานพาหนะส่วนตัวที่จัดเตรียมไว้เท่านั้นและปฏิบัติตามแผนการเดินทางที่ได้รับการอนุมัติอย่างเคร่งครัด ผู้เดินทางไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือเดินทางไปยังสถานที่สาธารณะ

หน่วยงานผู้อุปถัมภ์มีหน้าที่กำกับควบคุมให้ผู้เดินทางที่ได้รับการอนุมัติปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่                       ใช้บังคับอยู่ของไทย การฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าวจะนำมาสู่การใช้บทลงโทษที่กำหนดไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ต่อทั้งผู้เดินทางและหน่วยงานผู้อุปถัมภ์

  1. การแก้ไข ระงับ หรือยกเลิกข้อตกลงช่องทางพิเศษ

    รัฐบาลไทยขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขรายละเอียดของมาตรการฝ่ายเดียวของไทยข้างต้น หรือระงับ หรือยกเลิกข้อตกลงช่องทางพิเศษกับ […………..…..] ตามสถานการณ์ COVID-19 ภายในของแต่ละฝ่ายโดยการแจ้งของกระทรวงการต่างประเทศไทย การแก้ไขหรือการระงับจะมีผลทันทีในวันที่ฝ่าย […………..…..]ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว ในขณะที่การยกเลิกจะมีผลเจ็ด (7) วันหลังจากที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว ในกรณีของการระงับหรือยกเลิก สามารถรื้อฟื้นการใช้ความตกลงช่องทางพิเศษได้เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน

 

* * * * * * * * * *

กระทรวงการต่างประเทศ

พฤศจิกายน ค.ศ. 2020