กิจกรรมประชาสัมพันธ์กองทุน ESCAP Multi-Donor Trust Fund for Tsunami, Disaster and Climate Preparedness in Indian Ocean and Southeast Asian Countries

กิจกรรมประชาสัมพันธ์กองทุน ESCAP Multi-Donor Trust Fund for Tsunami, Disaster and Climate Preparedness in Indian Ocean and Southeast Asian Countries

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ต.ค. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565

| 739 view
เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๒ กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (เอสแคป) จัดกิจกรรมการอภิปรายในหัวข้อ “Building Disaster Resilience in Asia-Pacific: the ESCAP Multi-Donor Trust Fund for Tsunami, Disaster and Climate Preparedness in Indian Ocean and Southeast Asian Countries” ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีคณะทูตานุทูต ผู้แทนหน่วยงานสหประชาชาติ หน่วยงานด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ และผู้ดำเนินโครงการของกองทุนฯ เข้าร่วมประมาณ ๕๐ คน
 
นายรองวุฒิ วีรบุตร รองอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ กล่าวเปิดกิจกรรมร่วมกับนาง Tiziana Bonapace ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ เอสแคป โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้อภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์และข้อริเริ่มต่าง ๆ ในการบริหารจัดการภัยพิบัติ ซึ่งกองทุน ESCAP Multi-Donor Trust Fund เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพัฒนาระบบเตือนภัยพิบัติหลากรูปแบบและเสริมสร้างความต้านทานต่อภัยพิบัติในภูมิภาค ดังนั้น การให้การสนับสนุนกองทุนฯ จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและปูทางไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
 
กองทุน ESCAP Multi-Donor Trust Fund ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๔๘ ภายหลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี ๒๕๔๗ ซึ่งได้สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับประเทศไทยและประเทศชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียหลายประเทศ โดยรัฐบาลไทยได้บริจาคเงินตั้งต้นจำนวน ๑๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต่อมา กองทุนฯ ได้รับเงินบริจาคและการสนับสนุนเพิ่มเติมจากประเทศต่าง ๆ ได้แก่ สวีเดน เนปาล ตุรกี บังกลาเทศ ฟิลิปปินส์ เยอรมนี ญี่ปุ่น อินเดีย และเนเธอร์แลนด์ ทั้งนี้ กองทุนฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้าและช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านขีดความสามารถในการจัดการภัยพิบัติของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จนถึงปัจจุบัน มีโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ จำนวน ๒๙ โครงการรวมมูลค่ากว่า ๑๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีประเทศที่ได้รับประโยชน์โดยตรงกว่า ๒๐ ประเทศ

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ