สรุปแถลงข่าวประจำสัปดาห์
โดยอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
ประจำวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น.
ณ ห้องแถลงข่าว และทาง Facebook/TIKTOK LIVE กต.
- นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยือนไทยในลักษณะการเจรจาทำงาน (Working Visit)
- ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) ระหว่างวันที่ 17 - 18 เมษายน 2568 โดยได้เข้าพบหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล
- การเยือนครั้งนี้มีความสำคัญที่จะส่งผลบวกต่อความร่วมมือในด้านต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตาม และต่อยอดความร่วมมือระหว่างไทยกับมาเลเซีย หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนมาเลเซีย อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 และการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2568
- ในการพบหารือ ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน โดยมีการหยิบยกประเด็น ทั้งในกรอบทวิภาคีและประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ
- ประเด็นทวิภาคีที่สำคัญ ได้แก่
- การกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการส่งเสริมความเชื่อมโยงบริเวณชายแดน โดยนายกรัฐมนตรีทั้งสองได้เป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนความตกลงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่สอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลวัตของการค้าชายแดนและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน
- ประเด็นสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้และการเดินหน้ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขที่มีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น
- ความมั่นคงทางพลังงาน โดยฝ่ายมาเลเซียได้ขอบคุณ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ให้ความช่วยเหลือจัดส่งพลังงานให้อย่างทันท่วงที ภายหลังเหตุการณ์ท่อส่งก๊าซระเบิดที่รัฐสลังงอร์ (Selangor) ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพและความเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดระหว่างกัน
- ความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ (online scam) โดยฝ่ายไทยขอความร่วมมือมาเลเซียในการแบ่งปันผลการสอบสวนชาวมาเลเซียที่เคยทำงานเกี่ยวกับ online scam ในเมียนมาและเดินทางกลับมาเลเซียแล้ว ให้ตำรวจไทย เพื่อขยายผลการสอบสวนและขจัดขบวนการผิดกฎหมาย เหล่านี้ให้หมดไป
- ประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่
- ความร่วมมือในเวทีองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organisation of Islamic Cooperation: OIC)
- การให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่เมียนมาภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568
- การประสานท่าทีของประเทศสมาชิกอาเซียนในการรับมือกับมาตรทางภาษีของสหรัฐฯ และการเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจของภูมิภาคต่อความท้าทายต่าง ๆ
- การเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการสำคัญที่สะท้อนถึงความใกล้ชิดและความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างไทยกับมาเลเซีย อีกทั้งยังสะท้อนถึงบทบาทที่สำคัญของไทยในประเด็นระหว่างประเทศที่กำลังเป็นที่สนใจในห้วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมาหรือนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งไทยพร้อม สนับสนุนมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน และพร้อมร่วมกันหาแนวทางรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ที่มีพลวัตสูงต่อไป
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมประจำปี ESCAP สมัยที่ 81
- ในวันที่ 21 เมษายน 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดการเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม ประจำปีสมัยที่ 81 ของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific: ESCAP) ซึ่งการประชุมจะจัดขึ้นระหว่าง 21 - 25 เมษายน 2568 ที่สำนักงาน ESCAP
- ในปีนี้ การประชุมจัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลัก “Regional cooperation for resilient and sustainable urban development in Asia and the Pacific” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหารือถึงแนวทางการเพิ่มพูนความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเมืองและการขยายตัวของเมืองอย่างยั่งยืน ครอบคลุม ยืดหยุ่น และอัจฉริยะ ผ่านการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดี โดยเน้นการให้ความสำคัญกับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซี่งเป็นแนวทางพื้นฐานสำหรับการพัฒนาเมืองแห่งอนาคต
- ESCAP เป็น 1 ใน 5 คณะกรรมาธิการภูมิภาค (regional commissions) ภายใต้คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Economic and Social Council: ECOSOC) สำนักเลขาธิการตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2490 ที่นครเซี่ยงไฮ้ และย้ายมากรุงเทพเมื่อเดือนมกราคม 2492 นับเป็นคณะกรรมาธิการภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด มีสมาชิก 53 ประเทศ โดยเป็นองค์กรบริหารการดำเนินโครงการที่มีลักษณะคาบเกี่ยวหลายสาขา (cross-sectoral) และมีทั้งโครงการระดับอนุภูมิภาค ระดับภูมิภาค และระหว่างภูมิภาค นอกจากนี้ ESCAP ยังเป็นเวทีสำหรับการหารือระหว่างประเทศสมาชิกในการให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาค เช่น การขจัดความยากจน วิกฤตเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน และการจัดการภัยพิบัติ เป็นต้น
- กิจกรรมฉลองกระทรวงการต่างประเทศในโอกาสครบรอบ 150 ปี
- ปี 2568 เป็นปีที่สำคัญสำหรับกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากครบรอบ 150 ปี ของการสถาปนากระทรวงการต่างประเทศ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนากระทรวงฯ เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2418
- กระทรวงฯ มีแผนจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดปี ซึ่งรวมถึงการจัดทำประติมากรรมรูปช้างที่มีภาพสัญลักษณ์เกี่ยวกับประเทศไทยและการต่างประเทศบนตัวช้าง สะท้อนให้เห็นถึงกระทรวงฯ ในฐานะองค์กรหลักที่ขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศ ในช่วง 150 ปีที่ผ่านมาและในอนาคต โดยจัดตั้งไว้ที่ทางเข้ากระทรวงฯ ฝั่งถนนพระราม 6 และเปิดให้สาธารณชนเข้ามารับชมได้ ทั้งยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน อาทิ การแข่งขันประกวดสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ กิจกรรม ASEAN Street Arts ซึ่งจะเป็นงานศิลปะบนผ้าใบโดยศิลปินจากประเทศสมาชิกอาเซียน กิจกรรมให้ความรู้ด้านเทคนิคการพัฒนาทักษะการสื่อสารกับนักเรียนนักศึกษาในจังหวัดตามภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย และนิทรรศการหัวข้อ “150 ปี กระทรวงการต่างประเทศ: การวางรากฐานความสัมพันธ์ทางการทูตสู่อนาคต” ที่วิเทศสโมสร เป็นต้น
- นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ Thai PBS จัดทำสารคดี “ประวัติศาสตร์การทูตไทย” โดยปูชนียบุคคลด้านการต่างประเทศเล่าถึงประวัติศาสตร์การทูตไทยในช่วงเวลาและเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเริ่มออกอากาศแล้วตั้งแต่่วันที่ 14 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันสถาปนากระทรวงฯ ผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์และพัฒนาการด้านการต่างประเทศของไทยสามารถติดตามชมได้ผ่านช่องทางของสถานีโทรทัศน์ Thai PBS
- ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม - 4 มิถุนายน กระทรวงฯ จะจัดกิจกรรมสัปดาห์วิชาการ โดยจะมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ เกี่ยวกับการต่างประเทศ ทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายตลอดห้วงดังกล่าว ที่ห้องนราธิป ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของกระทรวงฯ
รับชมย้อนหลังที่: https://www.facebook.com/share/v/1ERmXz9cfL/
* * * * *