กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้จัดการหารือระหว่างสภาธุรกิจไทย-ลาตินอเมริกา และ ๕ สถานเอกอัครราชทูตไทยในลาตินอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเพื่อโอกาสทางธุรกิจ และเจาะลึกตลาดสาขาที่มีศักยภาพสอดคล้องกับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยหลังโควิด-๑๙ และนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว

เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๔ กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ จัดการหารือทางไกลระหว่างสภาธุรกิจไทย-ลาตินอเมริกากับสถานเอกอัครราชทูตและทีมประเทศไทยในภูมิภาคลาตินอเมริกาทั้ง ๕ ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี เม็กซิโก และเปรู โดยมีผู้แทนกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วม

ระหว่างการหารือฯ ทุกฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับสินค้าและสาขาธุรกิจของไทย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และบริบททางสังคมการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในลาตินอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า ๖๕๐ ล้านคน เพื่อสนับสนุนนโยบายแสวงหาตลาดที่มีศักยภาพ นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยหลังโควิด-๑๙ และนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) นอกจากนี้ ยังได้เจาะลึกสินค้าและบริการของไทยที่มีศักยภาพ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถยนต์ อุตสาหกรรมการเกษตร พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน การโรงแรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

ในโอกาสนี้ สภาธุรกิจไทย-ลาตินอเมริกาได้แจ้งการแต่งตั้งผู้แทนรายประเทศ (country representative) เพื่อประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคลาตินอเมริกาทั้ง ๕ ประเทศ โดยมีแผนจะจัดหารือเชิงลึกรายประเทศในช่วงเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๔ เพื่อจัดทำแผนงานและผลักดันธุรกิจเป้าหมาย อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์และอีวีในอาร์เจนตินา เครื่องจักรกลเพื่อการเกษตรในบราซิล ธุรกิจบล็อกเชนและสตาร์ทอัปในชิลี น้ำมันและก๊าซในเปรู รวมถึงการจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการค้าการลงทุนที่เม็กซิโก ทั้งนี้ ภาคเอกชนไทยเห็นควรผลักดันการจัดทำ FTA กับประเทศหรือกลุ่มประเทศที่สำคัญในลาตินอเมริกาเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากชิลีและเปรู เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้กับภาคเอกชนไทย

--------------