ปลัดกระทรวงการต่างประเทศหารือปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว ผลักดันความร่วมมือให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศจากสถานการณ์โควิด-๑๙

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศหารือปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว ผลักดันความร่วมมือให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศจากสถานการณ์โควิด-๑๙

วันที่นำเข้าข้อมูล 26 ม.ค. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,539 view

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หารือทวิภาคีปลัดกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว ผลักดันความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เป็นรูปธรรม มุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศจากสถานการณ์โควิด-๑๙

เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๖.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวง
การต่างประเทศ หารือทวิภาคีผ่านระบบทางไกลกับนายโพไซ ไขคำพิทูน หัวหน้าห้องว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (เทียบเท่าปลัดกระทรวงการต่างประเทศ) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) เพื่อแนะนำตัวในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งใหม่และเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางกระชับความสัมพันธ์ไทย - ลาวและต่อยอด “ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือทวิภาคีเพิ่มมากขึ้นให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะบริบทการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศจากสถานการณ์โควิด-๑๙

ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นสำคัญ ได้แก่ (๑) การฉลองครบรอบ ๗๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว (๒) ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (๓) ความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาตามแนวชายแดนต่างๆ อาทิ ความร่วมมือด้านสาธารณสุข การสกัดกั้นผู้ลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย และการบริหารจัดการแรงงาน (๔) ความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ อาทิ การกลับมาเปิด (resume) ช่องทางการขนส่งสินค้าเพิ่มเติมเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน การส่งเสริมความเชื่อมโยงเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานระหว่างไทยกับลาวเพิ่มมากขึ้น การเพิ่มปริมาณการค้าการลงทุนซึ่งรวมถึงการหาทางออกร่วมกันเรื่องปัญหาการส่งออกอาหารทะเลจากไทยไปลาว และการเพิ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และ (๕) การส่งเสริมความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาค โดยเฉพาะ ACMECS ซึ่งลาวจะเป็นประธานระหว่างปี ๒๕๖๔ – ๒๕๖๕ เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ