ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานร่วมการประชุม Political Consultation Group ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 10

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธานร่วมการประชุม Political Consultation Group ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 10

วันที่นำเข้าข้อมูล 7 ก.ย. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 7 ก.ย. 2567

| 1,685 view

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานการประชุม Political Consultation Group ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 10 ร่วมกับนายโด๋ หุ่ง เหวียต (Do Hung Viet) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ที่กรุงเทพฯ

ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจกับพัฒนาการเชิงบวกของความร่วมมือในทุกด้านภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งระหว่างไทยกับเวียดนาม และได้ย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะรักษาความต่อเนื่องของพัฒนาการดังกล่าวและพลวัตของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนและปฏิสัมพันธ์ระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ควบคู่กับการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) ครั้งที่ 4 ในอนาคตอันใกล้ โดยในโอกาสดังกล่าว ทั้งสองประเทศจะประกาศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership)

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสถาบันการทูตของกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ เพื่อจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น การแลกเปลี่ยนนักการทูตรุ่นใหม่ การฝึกอบรมร่วมกัน และกิจกรรมทางวิชาการอื่น ๆ

ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้มีการประสานงานและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานด้านการทหารและความมั่นคง โดยเห็นพ้องที่จะต่อยอดผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation: MLC) ที่เชียงใหม่ เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามแดนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะยาเสพติด การฉ้อโกงออนไลน์ และการค้ามนุษย์

ทั้งสองฝ่ายตระหนักว่า ไทยและเวียดนามเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญของกันและกัน จึงเห็นพ้องที่จะต้องเพิ่มความพยายามในการอำนวยความสะดวกทางการค้าและลดอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการค้าทวิภาคีที่ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะการเพิ่มเส้นทางบินระหว่างกัน นอกจากนี้ ยังตกลงที่จะร่วมมือกันและกับประเทศอื่นในภูมิภาคในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตกและตอนใต้ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางถนน ทางราง และทางทะเล

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ขอบคุณและขอให้รัฐบาลเวียดนามให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องแก่นักลงทุนไทย ซึ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อันดับที่ 9 ในเวียดนาม และแสดงความพร้อมของไทยที่จะต้อนรับการลงทุนจากเวียดนามเพิ่มเติม

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเร่งจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อจัดทำแผนการนำยุทธศาสตร์การเชื่อมโยง 3 ด้าน (Three Connects) ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจท้องถิ่น และยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนของทั้งสองประเทศ

ทั้งสองฝ่ายยินดีที่การท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศกลับมาสู่ระดับเดียวกับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ โดยเมื่อปีที่แล้ว ไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวเวียดนาม ในขณะที่นักท่องเที่ยวไทยอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 อันดับแรกที่เดินทางไปเวียดนามจำนวนมากที่สุด โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างกัน และการดำเนินการตามข้อริเริ่ม “หกประเทศ หนึ่งจุดหมายปลายทาง” ของไทยเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภายนอกภูมิภาค

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา และความร่วมมือในระดับท้องถิ่น โดยใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากบันทึกความเข้าใจเมืองคู่มิตรที่มีระหว่างกันกว่า 20 ฉบับ

ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ทะเลจีนใต้ และสถานการณ์ในเมียนมา และในฐานะที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดผ่านกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและความสามารถในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ของอนุภูมิภาค

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ