สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์
วันพุธที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๓๐ น.
ทาง Facebook Live กระทรวงการต่างประเทศ
๑. นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยือนไทยอย่างเป็นทางการ (๒๔ - ๒๖ ก.พ. ๒๕๖๕)
- ดาโตะ ซรี อิซมาอิล ซาบรี ยาคบ นรม. มาเลเซีย จะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย ระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๖ ก.พ. ๒๕๖๕ เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ และหารือกับ นรม. ในวันที่ ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕
- ผู้นำของประเทศทั้งสองจะหารือแนวทางการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ความร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ การส่งเสริมความเชื่อมโยงในพื้นที่ชายแดน ตลอดจนความร่วมมือในกรอบอาเซียนและกรอบพหุภาคีอื่น ๆ
๒. การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๑ (๑๔ - ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕)
- มีการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องมีสองประเด็นสำคัญที่มีการหารือเพิ่มเติมจากสัปดาห์ที่แล้ว ได้แก่ ๑) การฟื้นฟูเศรษฐกิจของเอเชีย-แปซิฟิก หลังโควิด-๑๙ ไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน ครอบคลุม และสมดุล และ ๒) การพื้นฟูความเชื่อมโยงโดยเฉพาะการเดินทางและการท่องเที่ยว
- ๑) การฟื้นฟูเศรษฐกิจของเอเชีย-แปซิฟิก หลังโควิด-๑๙ ไทยประสงค์จะขับเคลื่อน การเปิดกว้าง สู่ทุกโอกาสด้านการค้าการลงทุน โดยจะผลักดันการจัดทำเขตการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) ในบริบทยุคหลังโควิด-๑๙ ให้เป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมของการประชุมเอเปคในปีนี้ โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคในช่วงเดือน พ.ค. ๒๕๖๕
- ๒) การฟื้นฟูความเชื่อมโยงในภูมิภาค ไทยได้จัดการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่ออำนวยความสะดวกและรื้อฟื้นการเดินทางข้ามพรมแดนในภูมิภาคอย่างปลอดภัยและ ไร้รอยต่อ หรือ APEC Safe Passage Taskforce เป็นครั้งแรก หลังจากที่คณะทำงานนี้จัดตั้งขึ้นตามข้อเสนอของไทยเพื่อขับเคลื่อนการทำงานในปีนี้โดยเฉพาะ โดยมีนายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคไทย เป็นประธาน
- ไทยได้วางเป้าหมายระยะแรกด้วยการเสนอจัดทำฐานข้อมูลเอเปค หรือ APEC Portal เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการการเดินทางข้ามแดนของเอเปค โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในกลางปีนี้ รวมทั้งการเสนอจัดทำระบบตรวจสอบใบรับรองการฉีดวัคซีนร่วมกันระหว่างสมาชิกเอเปคที่พร้อมและสนใจ เพื่อให้การตรวจสอบใบรับรองฯ ดำเนินการได้สะดวกขึ้นทั้งภูมิภาค เป้าหมายระยะยาวเป็นการขยายขอบเขตของบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปคหรือ APEC Business Travel Card: ABTC ให้ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย
- ผลการประชุมของคณะทำงานเหล่านี้จะนำไปรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการด้านการค้าและการลงทุน และคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นสองคณะกรรมการหลักที่ขับเคลื่อนการทำงานด้านสารัตถะของเอเปค ก่อนจะนำไปสู่การหารือในที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕ ต่อไป ทั้งนี้ จะมีการแถลงข่าวสรุปผลการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ ๑ ในวันที่ ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕
๓. การให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานในประเทศกัมพูชา
- ตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ จนถึงปัจจุบัน ได้เกิดปัญหาคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมายในกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้รับคำร้องขอรับความช่วยเหลือจากคนไทยที่แจ้งว่าถูกหลอกไปทำงานในกัมพูชาแล้วประมาณ ๑,๕๐๐ คน ส่วนใหญ่อยู่ใน ๓ เมืองใหญ่ของกัมพูชา ได้แก่ จ.พระสีหนุ กรุงพนมเปญ และปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ตรงข้าม จ. สระแก้ว รวมทั้งมีแนวโน้มขยายไปบริเวณชายแดนเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ให้ความช่วยเหลือ และส่งคนไทยกลุ่มดังกล่าวกลับประเทศแล้วประมาณ ๑,๒๐๐ คน อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือจากคนไทยอีกจำนวนมาก และยังไม่มีแนวโน้มลดลง
- จากข้อมูลของคนไทยที่ถูกหลอกลวงมาทำงานในกัมพูชาระบุว่า ส่วนใหญ่ถูกหลอกผ่านนายหน้าที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการโฆษณารับสมัครงาน โดยหลอกลวงว่าจะมีรายได้ดีและง่ายดาย ซึ่งลักษณะงานผิดกฎหมายจะเป็นการทำหน้าที่แอดมิน คอลเซ็นเตอร์ ล่อล่วงให้เหยื่อลงทุนสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ รวมทั้งการพนันออนไลน์ หากทำงานไม่ได้ตามเป้าหมาย ก็จะขายทอดไปยังนายจ้างกลุ่มอื่น ซึ่งจะเข้าลักษณะการค้ามนุษย์ หรือต้องการออกจากระบบจะต้องจ่ายหนี้ หากไม่ทำตามจะถูกข่มขู่หรือทำร้ายร่างกาย โดยผู้ถูกหลอกลวงส่วนใหญ่จะต้องเดินทางข้ามแดนไปยังกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งจะมีความผิดอีกข้อหาหนึ่งด้วย ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายที่ถูกหลอกลวง จะเป็นคนไทยวัยทำงาน ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจช่วงโควิด-๑๙
- ในช่วงที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฯ นอกจากให้ความช่วยเหลือแก่คนไทยที่ร้องทุกข์เข้ามาแล้ว ยังได้รวบรวมคำร้องเข้าแจ้งความกับตำรวจกัมพูชา และติดตาม-ให้คำแนะนำแก่ญาติของผู้ร้องที่อยู่ระหว่างการรอความช่วยเหลือและรอการอนุมัติเนรเทศ (ใช้เวลาประมาณ ๑ เดือน) และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไม่ให้คนไทยหลงเชื่อคำกล่าวอ้างดังกล่าวผ่านช่องทางต่าง ๆ เป็นระยะ
- กต. ขอย้ำเตือนให้คนไทยอย่าหลงเชื่อคำหลอกลวงดังกล่าวในการไปทำงานผิดกฎหมายที่กัมพูชา เนื่องจากเป็นการทำผิดกฎหมายทั้งของไทยและกัมพูชา ต้องโทษตามกฎหมายคดีลักลอบเข้าเมือง คดีอาญา ซึ่งมีบทลงโทษจำคุก ๓-๖ เดือน ปรับไม่เกิน ๒ ล้านเรียล (ประมาณ ๑๕,๐๐๐ บาท) รวมทั้งถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเดินทางเข้ากัมพูชาเป็นเวลา ๓ ปี นอกจากนั้นยังอาจต้องประสบกับความรุนแรงจากนายจ้างกดขี่ กักขัง ข่มขู่ และอาจทำร้ายร่างกายจนถึงชีวิต รวมทั้งอาจต้องมีหนี้สินจำนวนมากอีกด้วย ผู้สนใจหรือต้องการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (๐ ๒๕๗๒ ๘๔๔๒) หรือกระทรวงแรงงาน
๔. ออสเตรเลียอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดสเดินทางเข้าประเทศ
- รัฐบาลออสเตรเลีย อนุญาตให้ผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนซึ่งทางการออสเตรเลียยอมรับครบสองโดส และได้รับการตรวจลงตราทุกประเภท รวมทั้งวีซ่านักเรียน สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตั้งแต่วันที่ ๒๑ ก.พ. ๒๕๖๕ โดยไม่ต้องกักตัว ยกเว้นรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียที่ยังคงให้ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศต้องกักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนดเป็นเวลา ๑๔ วัน และยังต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อกำหนดของแต่ละรัฐ
- วัคซีนที่ทางการออสเตรเลียยอมรับ ได้แก่ AstraZeneca Vaxzevria, AstraZeneca Covishield, Pfizer/Biontech Comirnaty, Moderna Spikevax, Sinovac Coronavac, Covaxin, Sinopharm (สำหรับผู้อายุไม่เกิน ๖๖ ปี), Sputnik V, Novavax, และ Janssen ทั้งนี้ ออสเตรเลียให้การรับรอง Vaccine Certificate ของไทยที่ออกโดยกรมควบคุมโรคทั้งรูปแบบเอกสาร (hard copy) และดิจิทัล
- ผู้เดินทางเข้าออสเตรเลียทุกคน ต้องกรอกข้อมูลการเดินทางในเอกสารรับรองการได้วัคซีนและผลการตรวจคัดกรองเชื้อโควิดทางออนไลน์ ที่ https://dpd.homeaffairs.gov.au ล่วงหน้า ๗ วันก่อนเดินทาง และแจ้งผลการตรวจคัดกรองเชื้อในเว็บไซต์ดังกล่าวไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมงก่อนเดินทาง
- สำหรับผู้เดินทางที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบโดส ยังคงต้องขออนุญาตก่อนการเดินทางและต้องกักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนดเป็นเวลา ๑๔ วัน
- กฎระเบียบและเงื่อนไขมีความแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ ศึกษารายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของรัฐบาลออสเตรเลีย https://dpd.homeaffairs.gov.au
๕. ความคืบหน้าการเตรียมการสำหรับคนไทยในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย
- อธิบดีกรมการกงสุลเป็นประธานการประชุมเพื่อหารือการเตรียมความพร้อมของแผนอพยพคนไทย ในยูเครนหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอและหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วม เมื่อวันที่ ๑๗ ก.พ. ที่ผ่านมา นั้น
- แผนอพยพคนไทยในยูเครน กรณีมีความจำเป็น มีรายละเอียด ดังนี้
- สถานเอกอัครราชทูตฯ กำหนดให้เมือง Lviv (ลวิฟ) ซึ่งมีสนามบินนานาชาติเป็นฐานหลักในการอพยพคนไทย
(๑) แผนอพยพที่ ๑ - การอพยพคนไทยกลับไทยโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำจากเมือง Lviv ซึ่งเป็นแผนที่กระทรวงฯ ให้ความสำคัญสูงสุด โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานขอให้เจ้าของร้านที่มีลูกจ้างคนไทยวางแผนในการนำคนไทยจากเมืองต่าง ๆ มายังเมือง Lviv หรือหากจำเป็น สถานเอกอัครราชทูตฯ ก็จะจัดหารถบัส/รถตู้จากโปแลนด์/ยูเครนไปรับคนไทยมายังเมือง Lviv ซึ่งเมือง Lviv อยู่ห่างจากรุงเคียฟประมาณ ๕๔๐ กม. (ใช้เวลาเดินทาง ๘-๙ ชม.) และอยู่ห่างจากเมือง Odesa เกือบ ๘๐๐ กม. (ใช้เวลาเดินทาง ๑๑-๑๔ ชม.)
(๒) แผนอพยพที่ ๒ เช่าเหมาลำจากกรุงวอร์ซอ - กรณีที่น่านฟ้าในยูเครนปิดและ/หรือเมือง Lviv มีสถานการณ์ความรุนแรง สถานเอกอัครราชทูตฯ จะจัดรถบัส/รถตู้ เพื่อนำคนไทยในยูเครนข้ามแดนมายังกรุงวอร์ซอ เพื่อขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับไทยต่อไป ซึ่งเมือง Lviv อยู่ห่างจากกรุงวอร์ซอประมาณ ๔๐๐ กม. (ใช้เวลาเดินทาง ๖-๗ ชม.) โดยจะต้องมีขั้นตอนการผ่านแดนด้วยประมาณ ๑-๒ ชม.
(๓) แผนอพยพที่ ๓ ในกรณีที่ไม่สามารถจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำจากเมือง Lviv หรือกรุงวอร์ซอได้ รบ.ไทยจะนำเครื่องบินจากไทยไปอพยพคนไทยต่อไป ซึ่งได้มีการหารือในรายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว
- นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ได้หารือกับฝ่ายรัฐบาลยูเครน รัฐบาลโปแลนด์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยในการเตรียมแผนอพยพคนไทยในกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งได้เยี่ยมเยียนชุมชนไทย สอท. ออกประกาศเตือนร่วมกับ กต. เมื่อ ๑๓ ก.พ. ๒๕๖๕ ขอให้คนไทยที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยูเครนในระยะนี้ และเมื่อวันที่ ๒๒ ก.พ. ๒๕๖๕ ได้ออกประกาศเตือนขอให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่เมือง Donaetsk (โดเนตสค์) และเมือง Luhansk (ลูฮันสค์) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีพัฒนาการความตึงเครียด และขอให้ผู้ที่พำนักอาศัยในยูเครนติดตามสถานการณ์และข่าวสารอย่างใกล้ชิด
- ช่องทางการประสานงานเพื่อแจ้งข่าวสารและดูแลความปลอดภัยของคนไทยในยูเครน ดังนี้
- Facebook สถานเอกอัครราชทูตฯ “Royal Thai Embassy, Warsaw, Poland” และ Facebook กลุ่ม “คนไทยในประเทศยูเครน”
- กลุ่ม LINE ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับชุมชนไทยในยูเครนเพื่อสื่อสารกับคนไทยได้อย่างรวดเร็วและทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น
- กลุ่ม Telegram ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับเจ้าของร้านสปาไทย ชาวยูเครน (Telegram เป็น Chat application ซึ่งคนยูเครนนิยมใช้) เพื่อการประสานงานกันอย่างทันท่วงทีกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย
- หมายเลข Hotline (+๔๘ ๖๙๖ ๖๔๒ ๓๔๘) สามารถติดต่อได้ ๒๔ ชม.และอีเมล์ติดต่อได้ที่ [email protected]
๖. งานสัมมนา "เจาะกลยุทธ์ธุรกิจไทย บุกตลาดใหม่ในลาตินอเมริกา" (๒๔ ก.พ. ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๔.๐๐ น.)
- กต. โดยกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ จะจัดงานสัมมนา “เจาะกลยุทธ์ธุรกิจไทย บุกตลาดใหม่ในลาตินอเมริกา” โดยแบ่งเป็น ๒ ช่วง ได้แก่ (๑) การบรรยายออนไลน์โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก และเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิมา เกี่ยวกับภาพรวมของภูมิภาคลาตินอเมริกา และแผนการสนับสนุนภาคเอกชนไทยในการดำเนินธุรกิจ (๒) การเสวนาโดยผู้แทนสภาธุรกิจไทย - ลาตินอเมริกา และนักธุรกิจผู้มีประสบการณ์ตรงด้านการลงทุนในภูมิภาค อาทิ บริษัทข้าวสารเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้เปิดตัวกลุ่มบอยแบนด์ 4MIX จนดังไกลถึงเม็กซิโก ซึ่งจะแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับศักยภาพ โอกาส แนวทางรับมือความท้าทายในการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนไทย
- ผู้สนใจสามารถร่วมรับชมถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กของ กต. หรือลงทะเบียนเข้าร่วมรับชมผ่านโปรแกรม zoom (สามารถถาม - ตอบได้) ที่กองลาตินอเมริกา กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ ๐๒ ๒๐๓ ๕๐๐๐ ต่อ ๑๓๐๒๙ อีเมล [email protected] Facebook.com/DLAMFA
๗. รายการบันทึกสถานการณ์ และ MFA Update
- วันพรุ่งนี้ (วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ ก.พ. ๒๕๖๕) เวลา ๐๘.๓๐ - ๐๘.๔๕ น. รายการ “บันทึกสถานการณ์” ทาง FM 92.5 (ภาษาไทย) จะสัมภาษณ์นางสาวศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี หัวข้อ “รู้จักไนโรบี : เมืองหลวงสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ” สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง youtube “MFA Thailand Channel”
- วันศุกร์ที่ ๒๕ ก.พ. ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๐๕ - ๐๘.๒๐ น. รายการ “MFA Update” FM 88.0 (ภาษาอังกฤษ) จะสัมภาษณ์์นายอธิปัตย์ โรจนไพบูลย์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองสะหวันนะเขต หัวข้อ “Opportunities from Land-linked in Southern Lao” สามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง youtube “MFA Thailand Channel”
รับชมแถลงข่าวย้อนหลัง: https://fb.watch/blqdPIDOym/
คลิปแถลงข่าว: ช่อง Youtube “MFA Thailand Channel”: https://www.youtube.com/user/mfathailand
* * * * *