สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ โดยอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ วันอังคารที่ 17 กันยายน 2567

สรุปการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ โดยอธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ วันอังคารที่ 17 กันยายน 2567

วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ก.ย. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 18 ก.ย. 2567

| 1,001 view
  1. ภารกิจของรัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ
  • การเข้าร่วมการประชุม United Nations General Assembly ครั้งที่ 79 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ
    • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 79 (UNGA79) ระหว่างวันที่ 23 - 30 ก.ย. 2567 ณ นครนิวยอร์ก โดยจะเข้าร่วมพิธีเปิดและกล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไป (General Debate) และมีกำหนดการสำคัญอื่นรวมถึงการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุม Summit of the Future (SotF) และการประชุม Annual Ministerial Meeting of Group of Friends of Universal Health Coverage and Global Health (GoF on UHC) 
    • การประชุม Summit of the Future ถือเป็นการประชุมที่มีความสำคัญที่สุดในช่วงสัปดาห์ UNGA79 High-level Week ภายใต้หัวข้อหลักการประชุม “Summit of the Future: Multilateral Solutions for a Better Tomorrow” โดยจะเป็นโอกาสให้ไทยได้ร่วมกำหนดวาระสำคัญของโลก ทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงได้แสดงวิสัยทัศน์ของไทยเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินความร่วมมือพหุภาคี
    • การประชุม Group of Friends on Universal Health Coverage (GoF on UHC) จะจัดขึ้นในหัวข้อ “Realizing Financial Protection to ensure Universal Health Coverage and Health Equity”
      ซึ่งไทยเป็นสมาชิกและประธานร่วม โดยการเข้าร่วมการประชุมนี้จะสะท้อนบทบาทนำของไทยในการผลักดันและขับเคลื่อนวาระงานด้าน Universal Health Coverage ในเวทีระหว่างประเทศ ที่ไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด
  • การเข้าร่วมการประชุมผู้นำ Asia Cooperation Dialogue (ACD Summit) ณ กรุงโดฮา กาตาร์
    • รัฐมนตรีฯ จะติดตามนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุม ACD Summit ระหว่างวันที่ 2 - 3 ต.ค. 2567 ณ กรุงโดฮา โดยอิหร่านเป็นประธานการประชุม และกาตาร์เป็นเจ้าภาพการประชุม
    • การประชุมครั้งนี้มีหัวข้อหลัก คือ การทูตเชิงกีฬา (Sport Diplomacy) และมีวาระการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ การกล่าวถ้อยแถลงของหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศสมาชิก ACD และการรับรองปฏิญญาโดฮา (Doha Declaration) ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำประเทศสมาชิกในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการทูตเชิงกีฬา และส่งเสริมให้ ACD เป็นเวทีหารือระดับนโยบายระหว่างประเทศในเอเชีย เพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างกัน หาแนวทางรับมือกับความท้าทายและการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศมหาอำนาจ รวมถึงส่งเสริมความเข้าใจและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
    • การเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้จะเป็นการติดตามนายกรัฐมนตรีเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกของรัฐมนตรีฯ และจะเป็นการเข้าร่วมประชุมในต่างประเทศครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ไทยจะเป็นประธาน ACD ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
  • การเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรี และการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว
    • รัฐมนตรีฯ จะเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีในกรอบอาเซียน ในวันที่ 8 ตุลาคม 2567 และติดตามนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2567 ณ เวียงจันทน์
    • การประชุมระดับรัฐมนตรีฯ ที่จะเข้าร่วม ได้แก่
      (1) การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน

      (2) การประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ครั้งที่ 28
      (3) การประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน ครั้งที่ 35 โดยจะเป็นเตรียมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และครั้งที่ 45 และ

      การประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องในวันถัดไป และติดตามความคืบหน้าประเด็นคั่งค้างต่าง ๆ เช่น การดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในเมียนมาและความสัมพันธ์กับภาคีภายนอกอาเซียน
    • นอกจากนั้น ยังมีกำหนดการสำคัญอื่น ซึ่งรวมถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาจำนวน 11 การประชุม พิธีลงนามตราสารภาคยานุวัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพิธีปิดและการส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนแก่มาเลเซีย

 

  1. การประชุมประจำปีองค์การที่ปรึกษากฎหมายแห่งเอเชียและแอฟริกา สมัยที่ 62 (AALCO)
  • เมื่อวันที่ 9-13 กันยายน 2567 ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีขององค์การที่ปรึกษากฎหมายแห่งเอเชียและแอฟริกา สมัยที่ 62 (AALCO) ที่กรุงเทพฯ โดยนางสุพรรณวษา โชติกญาณ ถัง อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานการประชุม และมีผู้แทนจากประเทศสมาชิก 39 ประเทศ และ 7 องค์การระหว่างประเทศเข้าร่วม
  • ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือประเด็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญและเร่งด่วนระดับภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งรวมถึงการดำเนินงานของ ILC ในการประชุมสมัยที่ 75 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ กฎหมายทะเล สถานการณ์ในปาเลสไตน์ ความรุนแรงจากคตินิยมสุดขีดและการก่อการร้าย กฎหมายการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ กฎหมายไซเบอร์ และกฎหมายอวกาศ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับรองปฏิญญากรุงเทพ (Krungthep Declaration) ซึ่งย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศสมาชิกต่อหลักการและเป้าประสงค์ของ AALCO อาทิ การส่งเสริมบทบาทของประเทศจากเอเชียและแอฟริกาในการพัฒนาและผลักดันการดำเนินการตามด้านกฎหมายระหว่างประเทศ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการพัฒนากฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นความท้าทายที่จะส่งผลกระทบต่อคนรุ่นหลังในอนาคตทั้งนี้ ผลลัพธ์การประชุมในครั้งนี้ คือ ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการที่สามารถผลักดันให้พัฒนาการของกฎหมายระหว่างประเทศเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับท่าทีและผลประโยชน์ของประเทศไทย รวมถึงเสริมสร้างบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศด้วย
  • AALCO เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มประเทศเอเชีย-แอฟริกาเข้ามามีบทบาทในการประมวลและการพัฒนากฎหมายระหว่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับประโยชน์ของประเทศในทวีปเอเชียและแอฟริกา โดย AALCO จะประมวลความเห็นของประเทศสมาชิกในประเด็นกฎหมายดังกล่าว และแจ้งต่อองค์กรที่เกี่ยวข้อเป็นองค์การระหว่างประเทศสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้านกฎหมายระหว่างประเทศเอเชียและแอฟริกา เมื่อปี 2564 ดร. กมลินทร์ พินิจภูวดล อดีตเลขาธิการสมาคมนักกฎหมายระหว่างประเทศแห่งประเทศไทยได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ AALCO คนที่ 7
    เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ขณะที่ก่อนหน้านั้น ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของ AALCO 2 ครั้ง คือ เมื่อปี 2509 และ 2530

 

  1. การเปิดงาน Colours of Africa ณ Central World
  • เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดงาน The Colours of Africa 2024 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 11 กันยายน 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
  • กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพจัดงานร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตแอฟริกาประจำประเทศไทย 12 ประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ เปิดโลกทัศน์และมุมมองใหม่เกี่ยวกับแอฟริกา และส่งเสริมให้สาธารณชนไทยมีความรู้และความเข้าใจในภูมิภาคแอฟริกา ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนไทยกับประชาชนในแอฟริกา
  • ภายในงาน มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการแข่งขันตอบปัญหาเกี่ยวกับภูมิภาคแอฟริกา การแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับภูมิภาคแอฟริกา ในหัวข้อ “Africa in My Imagination” และ “Africa: Unity in Diversity” และการประกวดวาดภาพหัวข้อ “Africa in My Imagination” ทั้งยังมีการจัดคูหากว่า 20 คูหาโดยสถานเอกอัครราชทูตแอฟริกาประจำประเทศไทย สายการบินแอฟริกาที่มีบริการเที่ยวบินมายังประเทศไทย และเครือโรงแรมไทยที่มีโรงแรมในภูมิภาคแอฟริกา รวมถึงร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มแอฟริกา
  • นอกจากนี้ มีการแสดงดนตรีของวงดนตรีชาวแอฟริกาซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) การแสดงทางวัฒนธรรมของชุมชนชาวแอฟริกาในประเทศไทย และการบรรเลงเพลงร่วมสมัยแอฟริกาด้วยระนาดฝรั่งโดยศิลปินไทย “Fino the Ranad” และการแสดงแฟชั่นโชว์ไทย-แอฟริกา
  • การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากและมีคนเข้าร่วมงานหลายพันคน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยเปิดใจและสนใจภูมิภาคแอฟริกามากขึ้น ที่ผ่านมา กระทรวงฯ เคยจัดงาน Colours of Africa มาแล้ว 3 ครั้งและหวังจะจัดต่อไปอย่างสม่ำเสมอ

 

  1. การเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา
  • สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ กัมพูชา จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 และเปิดทำการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 โดยนับเป็นสถานกงสุลใหญ่แห่งล่าสุดของไทย มีเขตกงสุลครอบคลุม 8 จังหวัดทางภาคตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ประกอบด้วย (1) เสียมราฐ (2) พระตะบอง (3) ไพลิน (4) บันทายมีชัย (5) อุดรมีชัย (6) พระวิหาร (7) สตึงแตรง และ (8) โพธิสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก
  • ปัจจุบัน สถานกงสุลใหญ่ฯ มีข้าราชการประจำ 4 คน รวมกงสุลใหญ่ และสำนักงานชั่วคราวตั้งอยู่ที่โรงแรมธารา อังกอร์ (Tara Angkor) เมืองเสียมราฐ ขณะที่อยู่ระหว่างปรับปรุงที่ทำการของสถานกงสุลใหญ่ที่ Rose Apple Square เมืองเสียมราฐเพื่อรองรับการให้บริการของสถานกงสุลใหญ่ฯ อย่างเต็มรูปแบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายในไตรมาสแรกของปี 2568
  • ขณะนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ให้บริการในส่วนของการดูแลคุ้มครองและช่วยเหลือคนไทย รวมถึงเป็นศูนย์รวมในการประสานงานต่าง ๆ ของหน่วยราชการและเอกชนไทยที่มาดำเนินงาน ติดต่อ หรือเข้าประชุมกับหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ (สำนักงานชั่วคราว)ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ +855 63 966 661-2 ต่อ 204 หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected]
  • การเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ มีประโยชน์แก่ไทย ดังนี้
    • เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลและคุ้มครองผลประโยชน์ของคนไทย
    • ช่วยขยายโอกาสด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว สนับสนุนและคุ้มครองธุรกิจไทย
    • ช่วยให้ฝ่ายไทยประสานงานกับหน่วยงานของฝ่ายกัมพูชาในการร่วมกันแก้ปัญหาในพื้นที่โดยเฉพาะปัญหาด้านความมั่นคง และอาชญากรรมข้ามชาติบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ การหลอกลวงของแก๊งคอลเซนเตอร์ และปัญหาแรงงานข้ามชาติ

 

5. การประกาศรางวัลผู้ได้รับรางวัล Public Diplomacy Awards 2024 ของมูลนิธิไทย

  • กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทย (Thailand Foundation) จะมอบรางวัลการทูตสาธารณะของไทยประจำปี 2567 ให้แก่บุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรไทยและต่างชาติที่ได้สร้างชื่อเสียง ภาพลักษณ์ ความนิยมไทยและความเป็นไทยจนเป็นที่ประจักษ์ในหมู่ชาวต่างประเทศ
  • จุดประสงค์ของรางวัล ได้แก่
    • เชิดชูเกียรติให้แก่ผู้มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมงานด้านการทูตสาธารณะของไทย
    • ส่งเสริมให้ผู้ที่ได้รับรางวัลสามารถดำเนินงานตามเจตนารมณ์ต่อไปรวมถึงเป็นแบบอย่างและแนวทางให้แก่บุคคล กลุ่มบุคคล และองค์กรได้ 
    • สนับสนุนและส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักว่าทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานการทูตสาธารณะ
  • พิธีประกาศผู้ได้รับรางวัลประจำปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2567 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมกรมสารนิเทศ

 

  1. งานรัฐมนตรีพบปะสื่อมวลชน Meet the Press #2
  • กระทรวงฯ จะจัดงาน “Meet the Press #2 ในวันที่ 19 กันยายน 2567 เพื่อให้สื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนต่างประเทศในไทยพบปะ รับฟังพัฒนาการทิศทางนโยบายการต่างประเทศ และร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับรัฐมนตรีฯ โดยลงทะเบียนเวลา 9.30 น. และเริ่มงาน 10.00 น. ที่ห้องบัวแก้ว

 

รับชมแถลงข่าวย้อนหลัง: https://www.facebook.com/share/v/AoFCPicAEjfiaRvx/?mibextid=lpLi9V

 

* * * * *