สานพลังไทย-สวีเดน สู่ “เมืองไม้ยั่งยืน” จังหวัดแพร่

สานพลังไทย-สวีเดน สู่ “เมืองไม้ยั่งยืน” จังหวัดแพร่

วันที่นำเข้าข้อมูล 22 ส.ค. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 22 ส.ค. 2568

| 164 view

เมื่อวันที่ 15-16 สิงหาคม 2568 สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม โดย Thailand and Nordic Countries Innovation Unit (TNIU) ร่วมกับพันธมิตรหลายภาคส่วน จัดงานเสวนา สานพลังไทย-สวีเดน สู่เมืองไม้ยั่งยืน จังหวัดแพร่ (“Jump-Start Wood City” From Local Empowerment to Global Partnerships) เพื่อหลอมรวมองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ดีด้านการบริหารจัดการป่าไม้และอุตสาหกรรมไม้ยั่งยืนจากสวีเดนและไทย สู่จังหวัดแพร่ หนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านไม้เศรษฐกิจของประเทศ ที่มีวิสัยทัศน์พร้อมพัฒนา “แพร่แซนด์บอกซ์” เมืองไม้ยั่งยืนต้นแบบของไทย

งานนี้จัดขึ้นภายใต้กรอบความร่วมมือเวทีพัฒนาไทย-สวีเดนสู่ความยั่งยืน (Thailand-Sweden Sustainable Development Forum 2025) ครั้งที่ 5 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ และเป็นครั้งแรกที่ได้เชื่อมความร่วมมือจากระดับโลกสู่ระดับท้องถิ่น ณ สถาบันนวัตกรรมป่าไม้จังหวัดแพร่ โดยตลอดทั้งสองวันมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คน และผู้ชมทางออนไลน์แล้วกว่า 8,200 คน เปิดพื้นที่กลางสำหรับทุกภาคส่วนตั้งแต่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษาและภาคประชาสังคม มาร่วมหารือ สะท้อนความท้าทาย และโอกาสการเสริมความเข้มแข็งของห่วงโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมป่าไม้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งในมิตินโยบาย กลไกทางการเงิน งานวิจัยและการศึกษา รวมถึงการขับเคลื่อน เศรษฐกิจภายใต้ผืนป่าด้วยนวัตกรรม ซึ่งภายในงาน หน่วยงานในภาคีได้มีการนำเสนอ 7 โครงการไอเดียนำร่องที่สามารถต่อยอดพัฒนาสู่โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศและภายในประเทศต่อไป 

นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน ประจำประเทศไทย ได้มีการร่วมจัดนิทรรศการ Wood Life Sweden “วิถีแห่งไม้สวีเดน” โดยนำเสนอ 40 ตัวอย่างการพัฒนาอุตสาหกรรมไม้ในสวีเดนตั้งแต่งานขนาดเล็กถึงโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม-15 ตุลาคม 2568 ณ บ้านเขียวสวนรุกขชาติเชตวัน ศูนย์การเรียนรู้ด้านการป่าไม้ จ.แพร่ 

นางอรุณรุ่ง โพธิ์ทอง ฮัมฟรีย์ส เอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม กล่าวเปิดงานพร้อมเล่าถึงความมุ่งมั่นในการผลักดันความร่วมมือไทย-สวีเดนด้านป่าไม้ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนนี้ได้มีการจัดงานสัมนาทางออนไลน์ นำผู้เชี่ยวชาญสวีเดนมาบรรยายที่ไทยในปี 2565 และนำคณะผู้นำขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไม้ในประเทศไทยศึกษาดูงานระบบนิเวศนวัตกรรมอุตสาหกรรมป่าไม้ของสวีเดนในปี 2566 สู่การต่อยอดเป็นโครงการวิจัยพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้างอาคารไม้ในไทยที่กำลังดำเนินการในปัจจุบัน  ซึ่งการเดินทางมาถึงจังหวัดแพร่ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญที่เพิ่มมิติความร่วมมือเชื่อมโลกสู่ไทย และเชื่อมท้องถิ่นไทยสู่โลก (Local-Global) โดยมีจังหวัดแพร่ เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาเมืองไม้ เผยแพร่โมเดล “ตัดไม้ได้ป่า” และ ”ปลูกไม้เปลี่ยนเมือง” สู่พื้นที่ภาคเหนือและประเทศไทย เพื่อสร้างประโยชน์ สร้างรายได้ และรักษาจิตวิญญาณป่าไม้ไทยให้ยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น

ด้านนายแพร์ ลินเนียร์ อุปทูตสวีเดนประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ป่าไม้คือกุญแจสำคัญในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว โดยสวีเดนตั้งเป้าหมายก่อสร้างอาคารด้วยไม้เพิ่มขึ้นถึง 50% ภายในปี ค.ศ. 2030 และพร้อมแบ่งปันเทคโนโลยีและประสบการณ์กับไทย เพื่อก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน

“จังหวัดแพร่ มีฝันเล็กๆ ที่กำลังเดินทางสู่เป้าหมายใหญ่ ความฝันที่จะเป็นเมืองไม้ เมืองแห่งการศึกษา และธุรกิจไม้ครบวงจร” นายคุณากร คชหิรัญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่กล่าว

ความร่วมมือด้านป่าไม้ไทย-สวีเดนมีรากฐานยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 สานต่อจนถึงปัจจุบัน งานเสวนาครั้งนี้สะท้อนถึงพลังความร่วมมืออย่างเข้มแข็งทุกภาคส่วนสู่เป้าหมายเดียวกัน โดยจังหวัดแพร่มีการหารือว่าจะเตรียมนำบรรจุประเด็น “เมืองไม้ยั่งยืน” ไว้ในแผนยุทธศาสตร์จังหวัด พ.ศ. 2571-2575 พร้อมพัฒนากลไกกลางในการมีส่วนร่วมของภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคการศึกษา-ภาคประชาชน เพื่อสร้างแพร่ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจนวัตกรรมไม้ เมืองไม้ยั่งยืนต้นแบบของไทย

ติดตามรายละเอียดงานเสวนา: https://tniu-rte.org/2025/08/05/sdf2025/
รับชมย้อนหลังแลได้ที่:
LIVE : 15 ส.ค. (เช้า) https://www.facebook.com/share/v/14JZa8vLX5e/
LIVE : 15 ส.ค. (บ่าย) https://www.facebook.com/share/v/1AXgUi9fzQ/
LIVE : 15 ส.ค. พิธีเปิดนิทรรศการ Wood Life Sweden:  https://www.facebook.com/share/v/1CHTNofrbP/
LIVE : 16 ส.ค. (เช้า) https://www.facebook.com/share/v/173c9JCi1k/
LIVE : 16 ส.ค. (บ่าย) https://www.facebook.com/share/v/166kKYC5ep/
ติดตามข่าวสารความคืบหน้าของโครงการผ่าน TNIU Thailand and Nordic Countries Innovation Unit 

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงสตอกโฮล์ม และศูนย์ Thailand and Nordic Countries Innovation Unit (TNIU) ขอขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมขับเคลื่อนให้กิจกรรมครั้งนี้ ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์อย่างดียิ่ง

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ