เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๖ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ร่วมกับ Norwegian Seafood Council (NSC) ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมอาหารไทยในนอร์เวย์ผ่านการสาธิตทำอาหารไทยในงาน “Amazing Journey of Thai Taste in Norwegian Seafood” โดยนางสาววิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้เปิดงานร่วมกับนาย Christian Chramer ประธานกรรมการบริหาร Norwegian Seafood Council (NSC) และนาย Asbjørn Warvik Rørtveit ผู้อำนวยการ NSC สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ในงานมีบุคคลสำคัญของฝ่ายนอร์เวย์เข้าร่วม ได้แก่ นาย Tage Pettersen สมาชิกรัฐสภานอร์เวย์เขตเอิสท์โฟลด์ และคณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรมและกิจการครอบครัวของรัฐสภานอร์เวย์ นอกจากนี้ มีเอกอัครราชทูต และคณะทูตานุทูตในกรุงออสโล ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก ญี่ปุ่น โคลอมเบีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ โมรอกโก คาซัคสถาน บัลแกเรีย อินโดนีเซีย เปรู และสหรัฐฯ ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ และภาคประชาสังคมนอร์เวย์ สื่อมวลชนของนอร์เวย์ ได้แก่ บล็อกด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ “Reise Lykke” บล็อกและนักเขียนด้านอาหารและวัฒนธรรมด้านอาหารนานาชาติ “Helleskitchen” และนิตยสารด้านการท่องเที่ยว “Vegabond Reiselyst” ตลอดจนชุมชนไทยในนอร์เวย์ เข้าร่วมด้วย รวมประมาณ ๔๓ คน
Amazing Journey of Thai Taste in Norwegian Seafood มีที่มาจากการพบหารือระหว่าง เอกอัครราชทูตฯ กับนาย Asbjørn Warvik Rørtveit ผู้อำนวยการ NSC สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในโอกาสที่นางสาวอุรัสยา เสปอร์บันด์ หรือคุณญาญ่า เข้าร่วมกิจกรรม Story from the North ของ NSC ในฐานะ goodwill Ambassador อาหารทะเลของนอร์เวย์เพื่อส่งเสริมอาหารทะเลนอร์เวย์ และโดยที่ประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าอาหารทะเลนอร์เวย์มากเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะปลาแซลมอน และปลาเทราท์ โดยไทยนำเข้าประมาณ ๒๐,๐๐๐ ตันในปีที่ผ่านมา และสำนักงานของ NSC ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ เอกอัครราชทูตฯ จึงเห็นความสำคัญของความร่วมมือกับ NSC ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านอาหารทะเลนอร์เวย์กับอาหารไทย โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางไปพบกับนาย Christian Chramer ประธานกรรมการบริหาร NSC ที่สำนักงานใหญ่ของ NSC ที่เมือง Tromso และไปเยี่ยมชมศึกษาดูงานฟาร์มปลาแซลมอน และโรงงานปลา SalMar ที่เมือง Tromso เพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้เกี่ยวกันประมงของนอร์เวย์ที่เน้นด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน และมีแนวคิด “we care” ซึ่งสะท้อนทัศนคติร่วมกันของไทยและนอร์เวย์ที่เน้นการผลิตอาหารให้แก่ประชากรของโลก โดยเน้นความสำคัญของการดูแลประโยชน์ด้านสุขภาพ
ในงานนี้ เชฟชาญยุทธ์ จิตต์ประกอบ หรือ “เชฟนุ๊ก” เชฟชาวไทยจากเมือง Bergen ได้นำทีมเชฟชาวไทยจากเมือง Bergen และกรุงออสโล สาธิตการนำอาหารทะเลของนอร์เวย์มาใช้ในการประกอบอาหารไทยในลักษณะฟิวชั่น ได้แก่ บัตเตอร์เค้กต้มยำกุ้ง ทาร์ตเต้าเจี้ยวหลนปู King Crab เมี่ยงปลาแซลมอน และปลา Halibut ทอดขมิ้น โดยแขกผู้ร่วมงานได้ร่วมทดลองทำอาหารร่วมกับเชฟนุ๊กด้วย ได้แก่ นาง Vera Shatilova-Micarova เอกอัครราชทูตบัลแกเรียประจำนอร์เวย์ นาง Elizabeth Drevvatne ประธานกรรมการบริหารและผู้อำนวยการ NSC และเชฟ Terje Ommundsen เจ้าของร้านอาหารไทยระดับมิชลิน Plah และ AHAN นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตการทำขนมเบื้องไทยโดยคุณจินตนา แฮนเสน และเสิร์ฟน้ำสมุนไพรไทย ได้แก่ น้ำอัญชัญมะนาว น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำเก็กฮวย จากเชฟแต๊ก แม่ครัวของทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งได้รับความชื่นชอบจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก
กิจกรรม Amazing Journey of Thai Taste in Norwegian Seafood เป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับนอร์เวย์ให้กระชับยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในระดับประชาชนกับประชาชน ผ่านอาหารทะเลนอร์เวย์และอาหารไทย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบนิยมของชาวนอร์เวย์และชาวต่างชาติในนอร์เวย์ นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับนอร์เวย์ โดยเฉพาะการส่งเสริมสินค้าวัตถุดิบอาหารทะเลในไทยและอาหารไทยในนอร์เวย์ ซึ่งเป็นสาขาความร่วมมือที่มีศักยภาพของทั้งสองฝ่าย โดยปัจจุบัน ไทยอยู่ระหว่างเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรียุโรป (European Free Trade Association: EFTA) ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดอุปสรรคด้านภาษี และอุปสรรคอื่น ๆ ในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า อันจะเป็นประโยชน์ต่อการนำเข้าสินค้าอาหารทะเลจากนอร์เวย์ไปยังประเทศไทย รวมทั้ง มีส่วนช่วยในการขยายตลาดสินค้าไทยในนอร์เวย์ให้เปิดกว้างและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นด้วย
ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติ คณะทูตประเทศต่าง ๆ Friends of Thailand in Norway และชุมชนไทยในนอร์เวย์ที่เข้าร่วมในงาน Amazing Journey of Thai Taste in Norwegian Seafood ขอขอบคุณคำกล่าวชื่นชมการจัดงานในครั้งนี้ โดยเฉพาะการจัดทำเมนูอาหารที่สร้างสรรค์ รสชาติอร่อย และงดงามของเชฟนุ๊ก เชฟตา และทีมงาน ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมอาหารไทยให้เป็นที่นิยมไปสู่เวทีโลกยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงศักยภาพของชุมชนไทยในต่างแดนได้อย่างน่าภาคภูมิใจมาก