เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖ นางสาววิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ได้เดินทางไปยังบริษัท Akvaplan Niva ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ NIVA-group (Norwegian Institute of Water Research) และบริษัท Nofima ที่เมือง Tromsø เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการวิจัยด้านอาหาร การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และสิ่งแวดล้อม โดยมีนางสาวพจมาศ แสงเทียน ที่ปรึกษา นาย Øystein Valanes หัวหน้าแผนกการเข้าถึงตลาด และนาย Magnus Krane เจ้าหน้าที่ฝ่ายการสื่อสาร สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (Norwegian Seafood Council – NSC) เข้าร่วมด้วย
ในการเยือนบริษัท Akvaplan Niva นาง Anita Evenset หัวหน้าแผนกสิ่งแวดล้อม ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับความเป็นมาของบริษัท และบริการยานพาหนะทางน้ำอัตโนมัติ ที่สามารถควบคุมได้จากระยะไกล ทั้งที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ และที่สามารถทำงานอยู่ใต้น้ำ เพื่อเก็บข้อมูลผลกระทบของกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และการติดตั้งกังหันลมที่ลอยอยู่ในน้ำลึก ต่อสิ่งแวดล้อม โดยยานพาหนะดังกล่าว จะถูกติดตั้ง sensor ในหลายตำแหน่ง เพื่อให้สามารถรวบรวมข้อมูลที่มีความละเอียดสูง โดยข้อมูลจะถูกทยอยส่งมายังห้องควบคุม เพื่อเก็บรวบรวมไว้ ทั้งนี้ ยานพาหนะบางลำสามารถเดินทางไป-กลับบริเวณที่ต้องการเก็บข้อมูล และลอยเก็บข้อมูล รวมเวลาได้ถึง ๓ เดือน โดยใช้พลังงานจากแผงโซล่าเซลล์ ส่วนนาย Lars Olav Sparboe หัวหน้าส่วนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับการศึกษาวิจัย เพื่อการเพาะเลี้ยงปลาแซลมอน และสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ อย่างยั่งยืน ทั้งด้านการเพาะเลี้ยงเพื่อให้ปลาเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี และในด้านการคิดค้นพันธุ์ปลาใหม่ ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับตลาด รวมทั้งศักยภาพของนอร์เวย์ในการปลูกสาหร่าย Kelp ควบคู่ไปกับการเลี้ยงปลาแซลมอน ทั้งนี้ ขั้นตอนตั้งแต่การคิดค้นพันธุ์ปลา ไปจนถึงการเพาะพันธุ์เพื่อส่งขาย มักจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๑๕ ปี
Akvaplan Niva ให้บริการห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานและมีอุปกรณ์ครบครันสำหรับทำการวิจัยที่เกี่ยวกับมหาสมุทรและนวัตกรรมทางทะเล (FISK) เป้าหมายของ Akvaplan คือ การมีส่วนร่วมในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และการดำเนินธุรกิจที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม โดยการให้คำปรึกษา แนวทาง และคำแนะนำ ตามการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ล่าสุด โดยมุ่งเน้นโครงการวิจัยและพัฒนาที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสภาวิจัยของนอร์เวย์และนานาชาติ ศูนย์พัฒนานวัตกรรม และบริษัทเอกชน
ในการเยือนบริษัท Nofima นาย Øyvind Fylling-Jensen ประธานบริหาร และนาง Bente Torstensen หัวหน้าฝ่ายการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ซึ่งจะเป็นประธานบริหารในเดือนมิถุนายน 2566) ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับความเป็นมาของบริษัท และวิสัยทัศน์ “Sustainable food for all” เนื่องจากมองว่า ความมั่นคงทางอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับอนาคต และต้องอาศัยการศึกษาวิจัยและความเชี่ยวชาญ ตั้งแต่ด้าน food science ไปจนถึงการบริหารจัดการข้อมูล โดยข้อมูลที่โปร่งใสและเชื่อถือได้ มีความสำคัญอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ สำหรับอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงปลาแซลมอน ทั้งเพื่อการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก และเห็นว่า การดูแลควบคุมโดยภาครัฐมีความสำคัญ เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพสินค้า และส่งเสริมการเลี้ยงปลาแซลมอนอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น ในนอร์เวย์มีระบบ traffic light เพื่อให้บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น โดยหากบริเวณที่บริษัทดำเนินธุรกิจถูกประกาศให้เป็นสีแดง (โดยเฉพาะจาก salmon lice) บริษัทจะต้องหยุดกิจกรรมเป็นการชั่วคราว แต่หากเป็นสีเขียว จะสามารถดำเนินกิจกรรมได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นาย Fylling-Jensen แจ้งด้วยว่า Nofima มีความร่วมมือด้านการวิจัยกับบริษัท Thai Union Frozen เจ้าของบริษัท King Oscar ผู้ผลิตปลากระป๋องรายใหญ่ในประเทศนอร์เวย์
นาย Morgan Lillegård หัวหน้าฝ่ายการสื่อสาร ได้นำเอกอัครราชทูตฯ และคณะ ชมศูนย์ศึกษาวิจัยของ Nofima และรับฟังแนวทางการทดสอบความสดของปลา โดยปลาแซลมอนสดจะต้องมีเนื้อแน่น ตากลมใส เหงือกสีแดงสด และเกล็ดมันเงา ที่สำคัญ ปลาแซลมอนที่สดจะมีกลิ่นเหมือนลมทะเล และแตงกวา ในขณะที่ปลาที่สดน้อยกว่า กลิ่นจะคล้ายซอสทาร์ทาร์ (Tartar sauce)
การศึกษาดูงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า นอร์เวย์ให้ความสำคัญกับงานด้านวิจัยเพื่อการพัฒนาอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่การเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนเพื่อการค้าเท่านั้น แต่ได้นำการศึกษาวิจัยไปพัฒนาปลาแซลมอนเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและอย่างยั่งยืนที่สุด ทั้งนี้ บริษัท Nofima เป็นหนึ่งในสถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรม สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ก่อตั้งเมื่อปี ๒๕๕๑ ปัจจุบัน มีพนักงาน ๓๙๗ คนจาก ๓๖ สัญชาติ มีผลประกอบการ ๗๐๗ ล้านโครนนอร์เวย์ มี ๖๐๒ โครงการ และผู้ใช้บริการจาก ๓๔ ประเทศทั่วโลก โดย Nofima เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยอาหารที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และอร่อย และมุ่งเน้นการพัฒนาวิธีการผลิตที่สามารถใช้วัตถุดิบได้ทุกชิ้น เพื่อการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืนตาม European Green Deal