เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๖ นางสาววิมลพัชระ รักษาเกียรติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล พร้อมด้วยนายมนต์ศักดิ์ แจ้งอริยวงศ์ อัครราชทูตที่ปรึกษา และนางสาวกนกนภัส สุขสง เจ้าหน้าที่ค้นคว้าวิจัย บริหารจัดการและประสานงาน Thailand and Nordic Countries Innovation Unit (TNIU) ประจำประเทศนอร์เวย์ ได้พบหารือกับ Ms. Ann-Helen Ernstsen, CEO, Norwegian Centre against Marine Litter (MARFO) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Svolvær หมู่เกาะ Lofoten เพื่อศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยายสรุปเรื่องการจัดการขยะทะเล (Marine Debris) ของนอร์เวย์ ซึ่งเป็นสาขาที่นอร์เวย์มีความเชี่ยวชาญ และมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประเทศไทยสามารถเรียนรู้แนวปฏิบัติดังกล่าว
MARFO ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ ๒๐๑๘ เป็นหน่วยงานของรัฐบาลนอร์เวย์ ภายใต้กระทรวงคมนาคมนอร์เวย์ (Norwegian Ministry of Transport) โดยมีภารกิจเพื่อป้องกันปัญหาน้ำมันรั่วและกำจัดขยะทะเล ซึ่งต่อมา ในปี ค.ศ. ๒๐๒๑ ได้มีการปรับโครงสร้างของศูนย์ฯ และย้ายมาอยู่ภายใต้กระทรวงภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมนอร์เวย์ (Norwegian Ministry of Climate and Environment) โดยมีภารกิจในการจัดการและลดปริมาณขยะทะเล เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานความร่วมมือกับหน่วยงานและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในนอร์เวย์ และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น จัดการประชุมนานาชาติ Lighthouse Lofoten Conference เป็นประจำทุก ๆ สองปี เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้านการจัดการขยะทะเลจากผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั่วโลก จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. ๒๐๑๙ และครั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. ๒๐๒๒
รัฐบาลนอร์เวย์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแก้ไขปัญหาขยะทะเล โดยนอร์เวย์เป็นรัฐบาลประเทศแรกที่จัดตั้งศูนย์ MARFO เพื่อการแก้ไขปัญหาขยะทะเลโดยเฉพาะ เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีชายฝั่งยาวที่สุดเป็นอันดับสองของโลก และทะเลเป็น “หัวใจ” ของวิถีชีวิตและเป็นแหล่งรายได้ให้แก่ประชาชนนอร์เวย์ โดยเฉพาะ การทำประมง และการขุดเจาะน้ำมัน เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของนอร์เวย์ตระหนักว่า ขยะทะเลในนอร์เวย์ส่วนใหญ่มาจากผู้ที่มีอาชีพทางเรือ เช่น เชือก ตาข่ายจับปลา รัฐบาลนอร์เวย์จึงต้องแก้ไขปัญหาขยะทะเลอย่างจริงจัง โดย MARFO ได้คิดค้น applications ชื่อ Rydde และ Rent hav เพื่อเป็น platform สำหรับทุกภาคส่วน และประชาชนสามารถมีส่วนร่วมเพื่อเป็นอาสาสมัครในการกำจัดขยะทะเล และเป็นประโยชน์การเก็บรวบรวมข้อมูลปัญหาขยะทะเลเพื่อใช้ประโยชน์ในการวางแผนงานในระดับชาติ (national plan to clean up marine litters) ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่สะท้อนการดำเนินการของรัฐบาลนอร์เวย์ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเชื่อมโยงสร้างความตระหนักรู้ (awareness) จากประชาชนและทุกภาคส่วน
ในการบรรยายสรุป Ms. Ann-Helen Ernstsen ได้กล่าวถึงความท้าทายของการแก้ไขปัญหาขยะทะเล คือ “No one owns it and no one wants to spend money on cleaning it” ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิดนะคะ ดังนั้น ในการรักษาและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาร่วมกันของพวกเราทุกคนและมีลักษณะไร้พรมแดน ประสบการณ์การแก้ไขปัญหาและวิธีการบริหารจัดการขยะทะเลของนอร์เวย์ ทำให้เราตระหนักถึงความจำเป็นที่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง