เมื่อวันที่ 3 – 6 พฤศจิกายน 2567 นางสาวศิริพร ตันติปัญญาเทพ กงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่สำคัญต่าง ๆ ณ พุทธคยา ในโอกาสฤดูกฐินกาลปีพุทธศักราช 2567 โดยประเพณิทอดกฐินเป็นการเฉลิมฉลองประจำทุกปีในช่วงสิ้นสุดฤดูฝนหลังเข้าพรรษา ซึ่งชาวพุทธจะถวายเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรมโดยเฉพาะผ้ากฐินให้แก่พระภิกษุสงฆ์เพื่อเป็นการเคารพสักการะและแสดงความรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของพระภิกษุสงฆ์

การเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวของกงสุลใหญ่ฯ สะท้อนถึงบทบาทเชิงรุกของประเทศไทยในด้าน “การทูตพระพุทธศาสนา” ซึ่งช่วยส่งเสริมสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม ความเข้าใจซึ่งกันและกัน และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินเดียโดยเฉพาะระหว่างชุมชนชาวพุทธ โดยกงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้

(1) พิธีถวายผ้ากฐินซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานให้ทอดถวายวัดไทยพุทธคยา

(2) กิจกรรมจิตอาสาปลูกดอกรักเร่และดอกดาวเรืองบริเวณทางเข้าวัดพระศรีมหาโพธิ์ และบริเวณภายในวัดไทยพุทธคยา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2567 โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นการถวายความเคารพและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาทั้งในและต่างประเทศ

(3) พิธีถวายผ้ากฐินแก่พระสงฆ์นานาชาติ 700 รูป ณ วัดพระศรีมหาโพธิ์ โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นโอกาสสำคัญที่ชาวพุทธนานาชาติได้มาทำบุญร่วมกันอย่างสามัคคีและพร้อมเพรียง

(4) พิธีทำบุญอายุวัฒนมงคล 70 ปี พระธรรมโพธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา และหัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล (5) การเยี่ยมสักการะวัดนวมินทรธัมมิกราช เมืองนาวาดา รัฐพิหาร พร้อมกับคณะเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อธิบดีสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และ (6) การถวายภัตตาหารเพลประกอบด้วยเมนูอาหารไทยแก่พระภิกษุสงฆ์ในคณะกรรมการบริหารวัดพระศรีมหาโพธิ์ (Bodhgaya Temple Management Committee: BTMC) เพื่อเป็นการแสดงความปรารถนาดีและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในฐานะชาวพุทธ

การเข้าร่วมงานทอดกฐิน ณ พุทธคยา ของประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อน “การทูตพระพุทธศาสนา” ส่งเสริมสายสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรม และเสริมสร้างสันติภาพกับชุมชนชาวไทยในประเทศอินเดียและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งเป็นการเน้นย้ำค่านิยมของความเมตตากรุณา การเคารพซึ่งกันและกัน และความร่วมมือในระดับนานาชาติ