นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

วันที่นำเข้าข้อมูล 24 ก.พ. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 ก.พ. 2568

| 1,679 view

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) และนางวันดาลา สีพันดอน ภริยา เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล

 

ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว และภริยา เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

 

การเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ด้วย   

 

ในระหว่างการเยือน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ได้หารือทวิภาคีกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยผู้นำทั้งสองท่านได้เน้นย้ำถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย - ลาว ในทุกมิติ โดยเฉพาะการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ การแก้ไขปัญหาความมั่นคงข้ามแดน การส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและคมนาคม และการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชน 

 

การส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงชายแดน

นายกรัฐมนตรีทั้งสองเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาข้ามแดน ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนไทย - ลาว และในภูมิภาค โดยให้ความสำคัญกับการปราบปรามการค้ายาเสพติด การฉ้อโกงออนไลน์ ปัญหาหมอกควันข้ามแดน และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำร่วมกัน

 

ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้นำทรัพยากร เช่น ไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนระบบโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ไปใช้สนับสนุนองค์กรและกิจกรรมที่ผิดกฎหมายตลอดแนวชายแดน

 

นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนและการบริหารจัดการน้ำ โดยไทยและ สปป. ลาว จะสนับสนุนการติดตั้งและบูรณาการระบบเตือนภัยล่วงหน้าเพื่อลดผลกระทบจากมลภาวะ PM 2.5 และบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนทั้งในระดับทวิภาคีและอนุภูมิภาค

 

การส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความเชื่อมโยง

ผู้นำทั้งสองให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าและการลงทุนตามแนวชายแดนไทย - ลาว ซึ่งทั้งสองฝ่ายย้ำความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการค้าทวิภาคีที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570 ในโอกาสนี้ ฝ่ายไทยขอบคุณที่ฝ่ายลาวได้อำนวยความสะดวกในการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย โดยเฉพาะผลไม้เมืองร้อนที่ผ่าน สปป. ลาว ไปยังจีน และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนในเรื่องนี้ต่อไป

 

นายกรัฐมนตรีทั้งสองยังได้หารือกันถึงโอกาสในการยกระดับการเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง และเห็นพ้องที่จะร่วมกันพัฒนายุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาการเชื่อมโยงทางบกไทย - ลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงทางถนนและทางรถไฟ เพื่อส่งเสริมการขนส่งข้ามแดนที่ไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพและพัฒนาให้ทั้งสองประเทศเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค

 

ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความก้าวหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ สะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ซึ่งใกล้จะก่อสร้างแล้วเสร็จ และการปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 12 (R12) ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงไทย สปป. ลาว และเวียดนาม และได้หารือเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต ได้แก่ การก่อสร้างเส้นทางรถไฟระยะ 10 กิโลเมตร จากสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ไปยังสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อเชื่อมต่อระบบรถไฟไทย-ลาวกับระบบรถไฟลาว-จีน ตลอดจนการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 6 (อุบลราชธานี - สาละวัน) ด้วย

 

การสร้างเสริมสายสัมพันธ์พิเศษระดับประชาชน

เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ประเทศไทยได้ประกาศความพร้อมที่จะมอบทุนการศึกษาจำนวน 75 ทุน แก่ สปป. ลาว เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และเยาวชนซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของ สปป. ลาว ในอนาคต

 

นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นระดับอนุภูมิภาค ภูมิภาค และประเด็นระหว่างประเทศที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน นายกรัฐมนตรีแพทองธารได้ใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีกับ สปป. ลาว ที่ประสบความสำเร็จในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนเมื่อปี 2567 และเชิญนายกรัฐมนตรีสอนไซ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดแม่โขง - ล้านช้าง ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางที่จะยกระดับกรอบความร่วมมือระดับอนุภูมิภาคที่มีอยู่ อาทิ โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion : GMS) ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation : BIMSTEC) และโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอื่น ๆ ในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

 

การลงนามเอกสารสำคัญ

ภายหลังการหารือ ผู้นำทั้งสองได้เป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสาร ดังนี้

  1. แผนดำเนินการ พ.ศ. 2568 - 2570 เพื่อดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านกิจการยุติธรรมและกฎหมายระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

  2. บันทึกการดำเนินการด้านเทคนิคสำหรับการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว

  3. บันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ราชอาณาจักรไทย และมหาวิทยาลัยสุภานุวงศ์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

  4. บันทึกความเข้าใจระหว่างคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน กับสภาการค้า และอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ