นายกรัฐมนตรีมั่นใจสถานการณ์ปี ๒๕๖๔-๒๕๖๕ ดีขึ้น พร้อมหนุนเอกชน-รัฐ ร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP ยืนยันเสถียรภาพการเงินของประเทศไทยแข็งแกร่งมากที่สุด

นายกรัฐมนตรีมั่นใจสถานการณ์ปี ๒๕๖๔-๒๕๖๕ ดีขึ้น พร้อมหนุนเอกชน-รัฐ ร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP ยืนยันเสถียรภาพการเงินของประเทศไทยแข็งแกร่งมากที่สุด

วันที่นำเข้าข้อมูล 23 ธ.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 2,302 view

วันนี้ (๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๓) เวลา ๑๐.๓๐ น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ ภายหลังการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ โดยได้นำทุกประเด็นมาหารือร่วมกัน เพื่อจะเดินหน้าต่อไป
 
นายกรัฐมนตรียอมรับว่ารายรับของรัฐลดลงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยว และมีการนำงบประมาณส่วนหนึ่งไปดูแลผู้ที่มีรายได้น้อยและเกษตรกร ซึ่งต้องมีการทบทวนทั้งหมดทั้งรายจ่ายการลงทุน ภาครัฐทำอย่างเดียวคงไม่พอต้องมีภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนบางกิจกรรมในรูปแบบ Public Private Partnership หรือ PPP ซึ่งวันนี้ในที่ประชุมก็ได้มอบหมายให้ BOI ไปหาวิธีการดำเนินการเพื่อให้มีการสนับสนุนการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศจะช่วยรักษาค่าเงินบาทด้วย

นายกรัฐมนตรียืนยันว่า เสถียรภาพการเงินของประเทศไทยถือว่าแข็งแกร่งมากที่สุด เนื่องจากมีเงินอยู่ในระบบจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม วันนี้เรายังมีปัญหาสถานการณ์โควิด-๑๙ อยู่ ทั้งข้อจำกัดในการเข้า-ออกประเทศ และมีการใช้วัคซีนจะทำให้สถานการณ์ปีหน้าดีขึ้น ดังนั้น ทุกคนต้องยึดมั่นดำรงไว้ซึ่งความร่วมมือระหว่างภาครัฐ- เอกชน