เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกเยือนไทยในฐานะแขกกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและสัมพันธไมตรี พร้อมยกไทยเป็นตัวอย่างของสังคมพหุวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ ๑๔ – ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ดร.มุฮัมมัด บิน อับดุลกะรีม อัลอีซา (H.E. Dr. Mohammad bin Abdulkarim Al-Issa) เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก พร้อมด้วยคณะผู้แทนองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก เดินทางเยือนไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ โดยนับเป็นคณะทางการจากซาอุดีอาระเบียคณะแรกที่เดินทางเยือนไทยภายหลังจากที่ไทยกับซาอุดีอาระเบียปรับความสัมพันธ์ทางการทูตให้กลับสู่ระดับปกติอย่างสมบูรณ์

ระหว่างการเยือนไทย เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราช และเข้าเยี่ยมคารวะและพบหารือกับผู้แทนระดับสูงของไทย อาทิ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และผู้แทนจุฬาราชมนตรี โดยเลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกได้ยกไทยเป็นตัวอย่างของสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีของการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมของโลก เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกยังได้แสดงความเชื่อมั่นและความพร้อมสนับสนุนแนวทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาลไทย รวมทั้งพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกกับประเทศไทยในด้านต่าง ๆ ต่อไป

การเยือนไทยครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี สะท้อนถึงความสนใจขององค์การสันนิบาตมุสลิมโลกในการส่งเสริมความร่วมมือและสัมพันธไมตรีอันดีกับไทยและบทบาทของไทยที่ได้รับการยอมรับในชุมชนมุสลิมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ความสำคัญของพันธมิตรหลากหลายอารยธรรม” ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหัวข้อ “ความเอื้ออาทรและสัมพันธภาพระหว่างศาสนา” ที่สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลาม เพื่อส่งเสริมการสร้างความเข้าใจและการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีในสังคมพหุวัฒนธรรม (interfaith dialogue) นอกจากนี้ ยังได้รับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมอัลมีรอซ กรุงเทพฯ ด้วย

องค์การสันนิบาตมุสลิมโลกเป็นองค์กรเอกชนนานาชาติ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๐๕ โดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองมักกะห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียโดยกำหนดแนวทางให้เป็นองค์กรส่งเสริมด้านศาสนาและวัฒนธรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง มีบทบาทหลักด้านการเผยแพร่ศาสนา การศึกษาและปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรม และสาธารณกุศล โดยในช่วงที่ผ่านมา อดีตเลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกเคยเยือนไทยแล้วสองครั้ง ในปี ๒๕๕๐ และ ๒๕๕๕

----------------