รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ เครือรัฐออสเตรเลีย ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน - ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ เครือรัฐออสเตรเลีย ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน - ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์

วันที่นำเข้าข้อมูล 4 มี.ค. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 9 มี.ค. 2567

| 3,057 view

เมื่อวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๗ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือทวิภาคีกับนางสาว Penny Wong รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ เครือรัฐออสเตรเลีย ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน - ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ ๕๐ ปี ความสัมพันธ์ ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองที่ทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกัน หลังจากการพบหารือทวิภาคีครั้งแรกในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๘ (UNGA78) เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๖๖ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ในโอกาสเดียวกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือเกี่ยวกับภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับเครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งมีความพิเศษและใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสที่ พลเอก เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียและภริยา เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล เมื่อวันที่ ๑๓ - ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ยินดีและเห็นพ้องที่จะสานต่อพลวัตความร่วมมือที่ครอบคลุมและสร้างสรรค์ระหว่างกันในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุมถึงความตกลงการค้าเสรีไทย - ออสเตรเลีย (TAFTA) ที่จะครบรอบ ๒๐ ปีของการบังคับใช้ในปี ๒๕๖๘ ตลอดจนความร่วมมือในสาขาธุรกิจเป้าหมายต่าง ๆ ที่ประเทศไทยและเครือรัฐออสเตรเลียให้ความสำคัญและประสงค์ที่จะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน ได้แก่ การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า และการเกษตรแม่นยำ

ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีที่สำคัญอื่น ๆ อาทิ ความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์และความมั่นคงทางไซเบอร์ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การเคลื่อนย้ายแรงงานในภาคการเกษตร และข้อริเริ่มของรัฐบาลออสเตรเลียที่จะกำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ใหม่ รวมถึงความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และอาเซียน ตลอดจนแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นในภูมิภาค โดยเฉพาะสถานการณ์ในเมียนมาและบทบาทของอาเซียนในการสนับสนุนให้เมียนมามีสันติภาพและเสถียรภาพ รวมถึงข้อริเริ่มของประเทศไทยในการยกระดับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมาตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา

การพบหารือในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยและเครือรัฐออสเตรเลียที่จะส่งเสริมและสานต่อพลวัตความสัมพันธ์ให้มีความใกล้ชิดและสร้างสรรค์ เพื่อนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง สันติภาพ และความมั่นคงในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และในระดับโลกต่อไป

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ