วันที่นำเข้าข้อมูล 31 ม.ค. 2567
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 31 ม.ค. 2567
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ที่เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ มกราคม ๒๕๖๗
รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้แสดงความพร้อมสนับสนุนวาระสำคัญของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของ สปป. ลาว ในปี ๒๕๖๗ ภายใต้แนวคิดหลัก “ASEAN: Enhancing Connectivity and Resilience” ที่เน้นการส่งเสริมความเชื่อมโยงและความเข้มแข็งของอาเซียน เพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์จากความร่วมมือและรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้ติดตามประเด็นที่เป็นข้อสั่งการของผู้นำอาเซียนจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๔๓ เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๖๖ ที่กรุงจาการ์ตา เพื่อผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการเสริมสร้างประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็ง การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ (Strategic Plans) ของวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี ค.ศ. ๒๐๔๕ เพื่อให้ผู้นำรับรองเอกสารทั้งสองในช่วงต้นปี ๒๕๖๘ และการดำเนินการตามมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific: AOIP) เพื่อธำรงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความเป็นแกนกลางของอาเซียน ไม่ให้ปัจจัยภายนอกทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นที่แห่งความขัดแย้งและการเผชิญหน้า รวมไปถึงการส่งเสริมความร่วมมือกับภาคีภายนอก โดยได้เห็นชอบคำขอของเปรูในการร่วมเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนากับอาเซียน และคำขอของแอลจีเรียในการภาคยานุวัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้แสดงความพร้อมของไทยในการดำเนินงานเรื่องความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในกรอบอาเซียนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในส่วนที่จะช่วยสนับสนุนวาระสำคัญของประธาน และย้ำความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อบรรลุเป้าหมายการสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีในปีนี้ต่อไป
นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้แลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและประเด็นท้าทายของโลก โดยยึดมั่นในหลักความเป็นอันหนึ่งเดียวกันและความเป็นแกนกลางของอาเซียน ให้ประเทศภาคีภายนอกใช้ประโยชน์จากกลไกอาเซียนที่มีอยู่อย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจ และผลักดันความร่วมมือระหว่างกัน
ในประเด็นเมียนมา ที่ประชุมฯ ย้ำว่าฉันทามติ ๕ ข้อยังเป็นเอกสารอ้างอิงหลักและเป็นแนวทางสำคัญของอาเซียนในการสนับสนุนการหาทางออกต่อประเด็นเมียนมา เพื่อให้เกิดสันติภาพ ความมั่นคง และเอกภาพในเมียนมา ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีฯ ได้แจ้งพัฒนาการของข้อริเริ่มด้านมนุษยธรรมของไทยในการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อส่งเสริมความพยายามร่วมกันของอาเซียนในการดำเนินการตามฉันทามติ ๕ ข้อ ซึ่งอาเซียนตอบรับด้วยดี รวมทั้งยังสนับสนุนให้ศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ (ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on Disaster Management: AHA Centre) เข้าร่วมสังเกตการณ์การจัดส่งและแจกจ่ายความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง
ในโอกาสการเข้าร่วมการประชุมฯ รองนายกรัฐมนตรีฯ ยังได้หารือทวิภาคีกับนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สปป. ลาว นางเริตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย นายซก เจินดาโซเพีย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา และนายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามด้วย
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **