รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอินโด-แปซิฟิก ครั้งที่ ๓ และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) ครั้งที่ ๒๔

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอินโด-แปซิฟิก ครั้งที่ ๓ และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) ครั้งที่ ๒๔

วันที่นำเข้าข้อมูล 30 ม.ค. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 ม.ค. 2567

| 3,469 view

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอินโด-แปซิฟิก (EU Indo-Pacific Ministerial Forum – IPMF) ครั้งที่ ๓ และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) (ASEAN-EU Ministerial Meeting – AEMM) ครั้งที่ ๒๔ ในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ณ กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม

การประชุม IPMF ครั้งที่ ๓ จะเป็นเวทีการหารือระดับสูงระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอียู ๒๗ ประเทศ และรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา ภูมิภาคเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ ตลอดจนผู้แทนองค์การระหว่างประเทศระดับภูมิภาคและหุ้นส่วนอื่น ๆ ในอินโด-แปซิฟิก อาทิ สมาคมแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย (IORA) และองค์กรการประชุมหมู่เกาะแปซิฟิก (PIF) ซึ่งคาดว่าจะมีประเทศที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้กว่า ๘๐ ประเทศ/องค์กร

การประชุม AEMM ครั้งที่ ๒๔ เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศสมาชิกอียูทั้ง ๒๗ ประเทศ รวมทั้งผู้แทนระดับสูงของอียูด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงและรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (HR/VP) โดยการประชุม AEMM จัดขึ้นเป็นประจำทุก ๒ ปี เพื่อหารือและติดตามการดำเนินความสัมพันธ์ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างอาเซียนกับอียูในทุกมิติ ทั้งนี้ การประชุม AEMM ครั้งล่าสุด จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-๑๙ โดยผลลัพธ์ที่สำคัญคือการปรับความสัมพันธ์อาเซียน-อียูเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

การเข้าร่วมการประชุม IPMF ครั้งที่ ๓ และ AEMM ครั้งที่ ๒๔ ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นโอกาสในการหารือและพิจารณาทิศทางการดำเนินความร่วมมือของไทยและอาเซียนกับอียู ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพื่อรับมือกับความท้าทาย ทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความมั่นคงระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นเศรษฐกิจดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านสีเขียว และการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานและห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน