วันที่นำเข้าข้อมูล 9 ธ.ค. 2568
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 9 ธ.ค. 2568
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการบรรยายสรุปแก่คณะทูตานุทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงพัฒนาการสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ร่วมด้วยนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ และนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
รัฐมนตรีฯ กล่าวถึงการกระทำที่เป็นการยั่วยุของฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อการปฏิบัติตามถ้อยแถลงระหว่างไทยกับกัมพูชา ลงนามเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ รวมถึงข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองฝ่าย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่เมืองปุตราจายา โดยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ทหารไทยถูกฝ่ายกัมพูชายิงในระหว่างการลาดตระเวนในดินแดนไทยบริเวณภูผาเหล็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ฝ่ายไทยต้องยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง ส่งผลให้ทหารไทยบาดเจ็บ 2 ราย และต่อมาเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ธันวาคม 2568 ฝ่ายกัมพูชายังคงโจมตีฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่องใน 4 พื้นที่ ได้แก่ (1) ช่องอานม้า ช่องบก เนิน 677 จังหวัดอุบลราชธานี (2) ปราสาทคนา ปราสาทตาควาย และปราสาทเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ (3) ห้วยตามาเรีย ภูมะเขือ และภูผาเหล็ก จังหวัดศรีสะเกษ และ (4) บ้านกรวดและ ช่องสายตะกู จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ใช้จรวด BM-21 พุ่งเป้าไปยังพื้นที่พลเรือนด้วย
รัฐมนตรีฯ ชี้แจงว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน รวมถึงการปกป้องความปลอดภัยของประชาชนไทย จึงจำเป็นต้องตอบโต้การโจมตีของฝ่ายกัมพูชาบนพื้นฐานของหลักการป้องกันตนเองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ กฎการใช้กำลัง (Rules of Engagement: ROE) ความจำเป็นและความได้สัดส่วน รวมถึงการจำกัดเฉพาะเป้าหมายทางการทหาร นอกจากนี้ การโจมตีทางอากาศของฝ่ายไทยเป็นไปตามหลักการป้องกันตนเองและดำเนินการด้วยความระมัดระวังและความแม่นยำ
รัฐมนตรีฯ ย้ำว่า ไทยยังคงยึดมั่นในแนวทางสันติภาพ ดังที่เป็นมาโดยตลอด อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิดที่ถูกวางใหม่ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 บริเวณห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ และการเปิดฉากยิงฝ่ายไทยโดยฝ่ายกัมพูชาในรอบนี้ แสดงให้เห็นว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชามิได้แสดงความจริงใจต่อการสร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพ ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องดำเนินการปฏิบัติการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน จนกว่ากัมพูชาจะปรับเปลี่ยนท่าทีในการแสวงหาสันติภาพที่แท้จริงและยั่งยืนต่อไป
การบรรยายสรุปครั้งนี้มีคณะทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศในประเทศไทยเข้าร่วม 73 คน จาก 58 ประเทศ 1 องค์กร (สหภาพยุโรป) และ 2 องค์การระหว่างประเทศ
รูปภาพประกอบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
งานรับ-ส่งหนังสือ และงานสารบรรณ:
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกคนเข้าถึงเว็บไซต์ได้และมีมาตรฐาน WCAG 2.0 ระดับ AA
** เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุดควรใช้ Chrome เวอร์ชั่น 76 ขึ้นไป **