กระทรวงการต่างประเทศจัดการประชุมโต๊ะกลมส่งเสริมความร่วมมือด้านวาระสีเขียวในกรอบอาเซียน - นิวซีแลนด์

กระทรวงการต่างประเทศจัดการประชุมโต๊ะกลมส่งเสริมความร่วมมือด้านวาระสีเขียวในกรอบอาเซียน - นิวซีแลนด์

วันที่นำเข้าข้อมูล 15 ก.ย. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 ก.ย. 2568

| 128 view

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 นายไพศาล หรูพาณิชย์กิจ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดการประชุมโต๊ะกลมส่งเสริมความร่วมมือด้านวาระสีเขียวในกรอบอาเซียน - นิวซีแลนด์ ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งจัดโดยกรมอาเซียน ในฐานะผู้ประสานงานของอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 120 คน ประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ สถาบันวิชาการ และภาคเอกชนจากประเทศสมาชิกอาเซียน นิวซีแลนด์ และติมอร์-เลสเต ในฐานะผู้สังเกตการณ์ รวมถึงสำนักเลขาธิการอาเซียนและศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue: ACSDSD)

รองปลัดฯ ย้ำความสำคัญของการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านวาระสีเขียวระหว่างอาเซียนกับนิวซีแลนด์ให้เป็นรูปธรรม อาทิ ตลาดคาร์บอน พลังงานหมุนเวียน และการจัดการป่าไม้ ขณะที่นายพลพงศ์ วังแพน อธิบดีกรมอาเซียน แจ้งวัตถุประสงค์ของการประชุมฯ ที่มุ่งดำเนินการตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 และเพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อความร่วมมือหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับนิวซีแลนด์ ค.ศ. 2021 - 2025 อีกทั้งนายโจนาทาน เดล คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ยังได้ร่วมกล่าวเปิดงานและย้ำว่า นิวซีแลนด์ให้ความสำคัญในการส่งเสริมร่วมมือด้านวาระสีเขียวและพร้อมให้ความร่วมมือกับอาเซียน โดยเฉพาะด้านการจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน ตลาดคาร์บอน และพลังงานหมุนเวียน ซึ่งล้วนเป็นกุญแจสำคัญต่อการสร้างภูมิภาคที่ยั่งยืนและเป็นนิมิตหมายที่ดีในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน - นิวซีแลนด์ ในปี 2568 ด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมของนิวซีแลนด์จากกระทรวงสิ่งแวดล้อมนิวซีแลนด์ กระทรวงอุตสาหกรรมพื้นฐานนิวซีแลนด์ สถาบัน Bioeconomy Science Institute บริษัท CarbonClick บริษัท Toitu Envirocare และบริษัท New Zealand Bio Forestry ได้ร่วมแบ่งปันแนวทางการดำเนินนโยบาย ประสบการณ์ และนวัตกรรมด้านการจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน เกษตรอัจฉริยะ ตลาดคาร์บอนเครดิต รวมถึงพลังงานหมุนเวียนของนิวซีแลนด์ ทั้งยังได้นำเสนอกรณีศึกษาการฟื้นฟูป่าไม้และการลงทุนบนพื้นฐานธรรมชาติ (nature-based investment) ผ่านตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทของ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นและแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันเพื่อผลักดันอาเซียนสู่ภูมิภาคที่ยั่งยืน นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนไทย อาทิ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย และบริษัท บี.กริม จำกัด (มหาชน) ยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาแนวทางความร่วมมือที่ทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างผลประโยชน์ร่วมทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการประชุมฯ มีกำหนดเข้าร่วมกิจกรรมศึกษาดูงานที่ศูนย์การเรียนรู้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานกลาง บริษัท บี.กริม บีไอพี เพาเวอร์ 1,2 จำกัด และบริษัท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด ในวันที่ 16 กันยายน 2568 เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับภาพรวมของธุรกิจด้านพลังงานและเทคโนโลยีของภาครัฐวิสาหกิจและเอกชนไทยด้วย

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ